เลกซี ธอมป์สัน โปรสาวอเมริกัน โชว์แมน ระบุ เป็นนักกอล์ฟอาชีพต้องยอมรับคำตัดสินแม้จะเจ็บปวดแค่ไทนก็ตาม หลังโปรวัย 22 ปี เพิ่งโดนปรับ 4 สโตรกจนชวดแชมป์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น เหตุมีคนดูทางบ้านอีเมล์แจ้งกรรมการว่าทำผิดกติกา
เลกซี ธอมป์สัน นักกอล์ฟสาวชาวสหรัฐ ออกมาแถลงการณ์ระบุว่านักกอล์ฟควรที่จะยอมรับคำตัดสินของกรรมการ แม้มันจะเป็นการตัดสินที่สร้างความเจ็บปวดขนาดไหนก็ตาม หลังนักกอล์ฟสาววัย 22 ปี เพิ่งเจอเหตุการณ์ดราม่า โดนปรับ 4 สโตรก จนชวดได้แชมป์รายการ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น เมเจอร์แรกของปีไปอย่างน่าเสียดายเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในการแข่งขันรอบสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ธอมป์สัน ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการว่าเธอถูกลงโทษปรับ 4 สโตรก ขณะกำลังเดินลงจากกรีนหลุม 12 และยังรั้งตำแหน่งผู้นำ จากความผิดที่เกิดขึ้นในการแข่งขันรอบ 3 หลังจากมีผู้ชมเห็นจากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่าเธอวางลูกกอล์ฟผิดจากตำแหน่งที่มาร์กเอาไว้ที่กรีนหลุม 17 ไปราว 1 นิ้ว และส่งเมล์มาแจ้งฝ่ายจัด ซึ่งกรรมการตัดสินว่าผิดจริงทำให้เธอโดนปรับ 2 สโตรก และปรับอีก 2 สโตรกจากการส่งสกอร์การ์ดผิด แต่ ธอมป์สัน ซึ่งร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจนั้น ยังแข็งใจแข่งขันต่อ และทำสกอร์รวมเท่ากับ ริว โซ ยอน จากเกาหลีใต้ที่ 14 อันเดอร์พาร์ 274 แต่สุดท้ายไปพลาดท่าพ่ายในการเพลย์ออฟ ชวดแชมป์ไปในที่สุด
การตัดสินของคณะกรรมการในกรณีดังกล่าว กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ธอมป์สัน ระบุผ่านแถลงการณ์ว่าในฐานะนักกอล์ฟอาชีพ เธอควรต้องยอมรับผลการตัดสิน โดยระบุว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจใด ๆ ทั้งสิ้น ฉันไม่เคยมีความตั้งใจที่จะทำแบบนั้น ซึ่งฉันคิดว่าทุกคนคงทราบดี กรรมการของ แอลพีจีเอ ทำการตัดสินในช่วงเวลานั้น และเราในฐานะนักกอล์ฟอาชีพก็ต้องยอมรับมัน ไม่ว่ามันจะรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม การที่แฟน ๆ ส่งเสียงเชียร์ทุกครั้งที่ฉันตี ทุกครั้งที่เดินขึ้นสู่แท่นทีออฟ มันยิ่งทำให้ฉันน้ำตาไหล”
ด้าน ริคกี ฟาวเลอร์ โปรดังชาวสหรัฐ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมตัวลงแข่งขันในศึก เดอะ มาสเตอร์ส เมเจอร์แรกของปีสำหรับฝ่ายชายในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยการกับที่กรรมการตัดสินไปตามข้อทักท้วงจากผู้ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยระบุว่ามันเป็นไม่ใช่สิ่งที่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของวงการกอล์ฟเลยแม้แต่น้อย
ฟาวเลอร์ กล่าวว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก และผมก็เชื่อว่านักกอล์ฟทุกคนคงพูดแบบเดียวกัน ถ้ามันมีกรรมการหรือใครสักคนที่คอยจับตาดูผ่านจอมอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลา มันคงไม่มีปัญหาอะไร กีฬาอีกหลายชนิดก็มีเจ้าหน้าที่พร้อมจอมอนิเตอร์เพื่อให้กรรมการดูภาพเพื่อตัดสิน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่มีกีฬาชนิดไหนที่คนนอกสามารถโทรศัพท์หรืออีเมล์แจ้งเรื่องการทำผิดกติกาได้ มันเป็นหน้าที่ของกรรมการ มันไม่มีหรอกที่คนดูทางบ้านที่นั่งชมการแข่งขันทางโทรทัศน์ จะเข้ามามีส่วนกับการตัดสิน ซึ่งในกรณีนี้มันส่งผลอย่างยิ่งกับตำแหน่งแชมป์รายการเมเจอร์ ผมเห็นใจ เล็กซี มาก ๆ แต่วิธีการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น และการที่เธอยังสู้เต็มที่หลังจากนั้นมันน่าประทับใจมาก ๆ”
