ดาร์วิน นูนเญซ : ผมไม่มีเป้าหมายส่วนตัวแต่ขอทุ่มเททุกอย่างเพื่อทีม

  ตอนนี้ต้องบอกเลยว่า ดาร์วิน นูนเญซ น่าจะคลายความกดดันไปพอสมควร หลังจากที่ลงสนามในเกมอย่างเป็นทางการให้กับ ลิเวอร์พูล พร้อมกับมีส่วนสำคัญในการนำ “หงส์แดง” ปราบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 คว้าโล่การกุศลคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ได้สำเร็จ

  นูนเญซ ซึ่งย้ายจาก เบนฟิก้า มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวมหาศาลเป็นสถิติของสโมสร โดยเขาถูกจับจองอยากมากจากแฟนบอลและสื่อ ซึ่งบางรายถึงขนานนามให้เป็น “นิว แอนดี้ แคร์โรลล์” ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เห็นผลงานของเขากับ “เดอะ เร้ดส์” ด้วยซ้ำ

  แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้ หัวหอกชาวอุรุกวัย ต้องแบกรับแรงกดดันอย่างมาก และทำให้เขาไม่สามารถผลิตผลงานชั้นยอดเหมือนกับที่เล่นให้ “เหยี่ยวลิสบอน” ในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น แม้จะซัด 4 ประตูในเกมอุ่นเกือกกับ แอร์เบ ไลป์ซิก แต่ก็ยังโดนปรามาสผลงานอย่างต่อเนื่อง

  สุดท้ายการลงเป็นตัวสำรองในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ พร้อมช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษ และยังโหม่งประตูได้ด้วย ทำให้เสียงวิจารณ์เริ่มจะเพลาลงไปบ้าง แต่กระนั้น นูนเญซ ยังเจอกับบทพิสูจน์อีกเยอะสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022/2023 ที่จะเปิดฉากช่วงปลายสัปดาห์นี้

  LFC : ดาร์วิน คุณรู้สึกยังไงกับสัปดาห์แรกที่ลิเวอร์พูล ?
  DN : มีหลายๆ อย่างมันยอดเยี่ยมมากๆ ผมรู้สึกประหม่านิดหน่อยในตอนแรก เพราะทุกอย่างมันใหม่หมดในช่วงแรก มันก็คล้ายๆ กับตอนที่คุณออกจากโรงเรียนหนึ่งไปเรียนที่ใหม่ พร้อมกับได้เจอกับเพื่อนใหม่หมด แต่หลังจากช่วงวันแรกๆ ผ่านไป ผมรู้สึกผ่อนคลายกับเพื่อนใหม่ของผม พวกเขาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เพราะเมื่อคุณเป็นคนเข้ามาใหม่ คุณรู้สึกประหม่านิดหน่อย ยิ่งไปกว่านนั้นคุณยังไม่รู้ภาษาด้วย คุณต้องการสื่อสารแต่คุณทำไม่ได้ คุณต้องพยายามทำความเข้าใจแต่คุณไม่เข้าใจอะไรเลยตอนที่พวกเขาคุยด้วย จากนั้น (เจมส์) มิลเนอร์ มาคุยภาษาสแปนิช, ติอาโก้ (อัลกันทาร่า) และนักเตะชาวบราซิเลียน รวมทั้ง หลุยส์ ดิอาซ ซึ่งเพิ่งจะย้ายมาได้ไม่นานก่อนผม ดังนั้นผมรู้สึกดีมากๆ และผ่อนคลายสุดๆ แน่นอนว่าผมไม่ได้รู้สึกประหม่าเหมือนกับช่วง 2-3 วันแรกแล้ว

  LFC : สมาชิกในทีมคนไหนที่ช่วยให้คุณปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ?
  DN : (โรแบร์โต้) ฟีร์มีโน่, ฟาบินโญ่, หลุยส์ ดิอาซ และ ฟาบิโอ ซึ่งเพิ่งจะย้ายมาเมื่อเร็วๆ นี้ จากนั้นก็เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ด้วย พวกเขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน ผมไม่สามารถพูดหรือเข้าใจภาษาอังกฤษ แต่บอกจากใจเราสื่อสารเข้าใจกับด้วยการภาษามือ ! ชาวอเมริกาใต้ช่วยผมเยอะมากในเวลานั้น ตอนที่ต้องรวมตัวกับเพื่อนร่วมทีมที่เหลือ แต่มันก็เป็นไปด้วยดี แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นกลุ่มคนที่ผมมักจะอยู่ด้วยมากที่สุดเพราะทำให้ผมสามารถสนทนาได้คล่องขึ้น ตอนนี้ผมยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษกับคุณได้มากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมจะพยายาามเรียนภาษาอังกฤษ และต้องสื่อสารด้วยการพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อนร่วมทีม ผมต้องเรียนภาษาอังกฤษเพราะมันสำคัญมากในทุกๆ เรื่อง เมื่อผมได้เรียนรู้ภาษามากขึ้น ผมก็สามารถพูดกับทุกคนเป็นภาษาอังกฤษได้

  LFC : คุณเป็นส่วนหนึ่งในแคมป์ฝึกซ้อมที่ออสเตรีย มันมีประโยชน์มากแค่ไหนที่จะสามารถเรียนรู้จากการเล่นเป็นทีม แต่ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ของคุณ ?
  DN : ใช่ครับ ผมอยู่ที่ออสเตรียประมาณ 7 หรือ 8 วันถ้าผมจำไม่ผิดนะ และมันเยี่ยมมากๆ เพราะนั่นเป็นที่ที่ผมได้คุ้นเคยกับการฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้น และได้สร้างความเข้าใจที่ยอดเยี่ยมร่วมกับนักเตะทุกๆ คนด้วย ยกตัวอย่าง (โมฮาเหม็ด) ซาลาห์ ซึ่งเล่นแนวรุกด้วย และคนอื่นๆ ที่เล่นกองกลางอย่างเช่น ฟาบินโญ่ และ เฮนโด้ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน) โดย เฮนโด้ พยายามใช้เวลาในการพูดคุยกับผมเยอะมาก ติอาโก้ ช่วยผมเยอะมากตอนที่ผมย้ายมาใหม่ๆ เขามักจะส่งต่อคำแนะนำของผู้จัดการตอนที่เราซ้อมวิ่งดริลล์ และออกกำลังกาย ผมไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก ผมมักจะไปยืนข้างติอาโก้ หรือนักเตะชาวบราซิเลียน แล้วก็ถามพวกเขาถึงสิ่งที่เราต้องทำ จากนั้นพวกเขาก็จะอธิบายให้ผมฟัง แน่นอนว่า ช่วงปรีซีซั่นมีประโยชน์ในการช่วยผมที่จะได้รู้จักเพื่อนร่วมทีม เมื่อเวลาผ่านไป ผมรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ผมมีความสงบและผ่อนคลาย รวมทั้งมั่นใจมากยิ่งขึ้น

  LFC : ภาพที่คุณจับปลาตัวใหญ่ที่ออสเตรียหลังจากไปตกปลากับเพื่อนๆ ถามจริงๆ คุณเป็นคนตกปลาตัวนั้นเองหรือเปล่า ?
  DN : บอกตามตรงนะ คอสตาส (ซิมิคาส) เป็นคนตกปลาตัวนั้นได้ มันหนักราวๆ 120 ปอนด์ และมันใหญ่มากสำหรับคนๆ หนึ่งที่จะแบกเพียงคนเดียว ! เรามีภาพที่จะพิสูจน์เรื่องนี้เพราะเราทุกคนอุ้มปลาตัวนั้น พอถึงตาผม ผมก็อุ้มปลาแล้วก็ถ่ายภาพ จากนั้นก็ อลีสซง (เบ็คเกอร์) ก็อุ้มปลายแล้วก็ถ่ายภาพ ทุกๆ คนได้ถ่ายภาพ แต่ คอสตาส คือตัวจริงที่จับปลาตกตัวนี้ได้

  LFC : คุณมีความสุขมากแค่ไหนที่ยิงประตูแรกในเกมกับแอร์เบ ไลป์ซิก ?
  DN : ผมมีความสุขมากๆ เพราะผมไม่ได้คาดหวังว่าจะยิงได้ 4 ประตู หลังจากที่ ซาลาห์ ให้ผมยิงจุดโทษ เขาสุดยอดมากๆ มันเป็นการแสดงท่าทีที่ดีเยี่ยมจริงๆ ผมขอมอบประตูแรกให้กับเขา เพราะเขาเป็นคนมอบบอลให้ผมยิงจุดโทษ ผมรู้สึกมั่นใจ ผมคว้าบอลมาและจัดการยิงเข้าไป จากนั้นก็ทำได้อีก 3 ประตู ซึ่งมันค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เราสู้กับทีมที่เก่งซึ่งมันเป็นเกมที่ยากลำบาก โชคดีที่ผมยิงได้ 4 ประตู และผมกลับไปที่โรงแรมด้วยความรู้สึกพอใจและมีความสุขมากๆ เพื่อนร่วมทีมเข้ามาแสดงความยินดีกับผม ตอนนั้นคุณรู้สึกภูมิใจและพอใจกับตัวคุณเอง ทันทีที่จบเกมคนแรกที่ผมคิดถึงก็คือลูกชายกับแฟนของผม

  LFC : คุณทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ คุณมีความสุขมากแค่ไหนกับประสบการณ์นี้ ?
  DN : ตอนที่บอลเข้าประตู ผมไม่รู้ว่าจะฉลองยังไง ผมก็เลยถอดเสื้อและผมเริ่มฉลองด้วยการปลดปล่อยอะดรีนาลีนรวมทั้งความบ้าคลั่งออกมา ผมมีความสุขมากๆ ในตอนนั้น ผมขออุทิศประตูนั้นให้กับภรรยาและลูกชายของผม

  LFC : มีอะไรผ่านเข้ามาในหัวคุณตอนที่คุณวิ่งฉลองประตู ?
  DN : ผมพูดกับตัวเองว่า – มันเยี่ยมมากแค่ไหนที่ได้สู้กับ ซิตี้ และยิงประตูแรกของคุณในเกมนี้ ?- มีความคิดมากมายวิ่งเข้าไปในหัวของผมในช่วงเวลาแบบนั้น ประตูแรกกับการสู้กับยอดทีม ในเกมใหญ่ ผมไม่รู้ว่าจะฉลองยังไง ! ดังนั้นผมก็แค่คิดว่าผมขอถอดเสื้อ และก็ฉลองอย่างเมามัน เพราะมันเป็นประตูสำญในเกมใหญ่สำหรับอาชีพของผม และผมมั่นใจว่าผมจะจดจำสิ่งนี้ไปจนวันตาย

  LFC : การฉลองต่อหน้าแฟนบอลใหม่ของคุณเป็นยังไง ? คุณรู้ไหมว่าถ้าคุณยิงประตูได้ในสุดสัปดาห์นี้ คุณต้องไม่ถอดเสื้อ
  DN : ไม่ทำหรอก ผมใจเย็นและนิ่งมากยิ่งขึ้น ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะฉลองยังไง ก็อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านั้น อะดรีนาลีนทำให้ผมถอดเสื้อออกมา ตอนนี้ผมอยากขอบคุณแฟนบอลลิเวอร์พูล เพราะตอนที่ผมเริ่มวอร์มร่างกาย พวกเขาตะโกนเรียกชื่อผม -นูนเญซ, นูนเญซ- และมันทำให้ผมขนลุกเลยทีเดียว พวกเขาร้องเพลงชื่อผมระหว่างเกมด้วย นั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเตะเพราะมันทำให้คุณรู้สึกสงบ และมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อลงสนาม ดังนั้นต้องขอบคุณพวกเขาทุกคนอีกครั้งเพราะพวกเขาทำให้ผมรู้สึกดีจริงๆ

  LFC : มีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นกับการเริ่มต้นชีวิตในเกมพรีเมียร์ลีก พบ ฟูแล่ม วันเสาร์นี้ ?
  DN : สิ่งแรกเรายังต้องฝึกซ้อมหนักในช่วงที่เหลืออยู่ของสัปดาห์นี้ และเตรียมตัวให้ดีสำหรับเกมนี้ ผมพูดมาตลอดว่ามันไม่ใช่เกมง่ายๆ และพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่มีการแข่งขันเข้มข้นซึ่งเต็มไปด้วยทีมชั้นยอด ทุกๆ เกมมันท้าทาย และคุณต้องเดินทางไปที่นั่นพร้อมกับเต็มไปด้วยแรงปรารถนาตั้งแต่นาทีแรกที่จะพยายามเอาชนะในเกมนี้ให้ได้ หลายๆ อย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คุณมีสิทธิ์เสียประตู และไม่ว่าคุณจะพยายามยังไงขณะที่อีกทีมตั้งรับได้ดี และคุณพบว่าสามแต้มหลุดลอยไป นั่นจะเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังจริงๆ แน่นอน ถ้าคุณพยายามอย่างหนักและสิ่งต่างๆ ไม่ได้ผลในเกมนั้น มันอาจจะเป็นเพราะคุณโชคร้ายก็ได้ มันจะเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยการแข่งขัน เราต้องพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพราะเรามีทั้งเกมลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งคุณต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ในฐานะนักเตะ เราต้องมั่นใจว่าเราจะอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดทั้งร่างกายและจิตใจ

  LFC : เป้าหมายส่วนตัวของคุณในฤดูกาลนี้คืออะไร ?
  DN : บอกตามตรงผมไม่เคยตั้งเป้าหมายส่วนตัวเลย แน่นอนว่ามันคงเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยม และน่ายินดีมากๆ ถ้ายิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง และผมก็ยิงประตูได้แล้ว แต่ไม่เลย ผมไม่เคยกำหนดตัวเลขที่แน่นอน ตอนนี้เป้าหมายของผมก็คือพยายามทำหลายๆ สิ่งให้ดีที่สุดเพื่อตัวผม และทุ่มเททุกอย่างที่ผมมีเพื่อทีม รวมทั้งเพื่อนร่วมทีมด้วย และเมื่อจบฤดูกาลเราจะได้ชูโทรฟี่แชมป์ นั่นเป็นสิ่งที่ผมและทุกๆ คนที่ลิเวอร์พูลต้องการ