“สิงห์บลูส์” ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล เก็บ 3 คะแนนได้ตามเป้าหลังบุกเชือด เอฟเวอร์ตัน 1-0 จากจุดโทษของ จอร์จินโญ่ โดยเกมนี้ส่งแข้งใหม่ลงสนามครบทั้ง สเตอร์ลิ่ง, คูลิบาลี่ และ กูกูเรย่า ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล 2022-23 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค เอฟเวอร์ตัน รับการมาเยือนของ เชลซี
แฟร้งค์ แลมพาร์ด พาทีมรอดตายชนิดหวุดหวิดเมื่อซีซั่นก่อน แถมฤดูกาลนี้เสียดาวยิงตัวเก่งอย่าง ริชาร์ลิซอน ไปให้สเปอร์ส
โดยช่วงปรีซีซั่นฟอร์มกระท่อนกระแท่น เพิ่งจะลับแข้งคว้าชัยในสองนัดล่าสุดเหนือ ดินาโม เคียฟ และแบล็คพูล นัดนี้วาง แอนโธนี่ กอร์ดอน ค้ำหน้าโดยมี แอนโธนี่ กอร์ดอน และดไวท์ แม็คนีล สนับสนุน
ส่วนทางฝั่ง “สิงห์บลูส์” เชลซี ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล พาทีมจบอันดับ3คว้าตั๋วไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ โดยการเสริมทัพได้ 3 แข้งใหม่ทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คาลิดู คูลิบาลี่ และมาร์ค คูคูเรย่า โดยเกมนี้จัดสามประสานทั้ง เมสัน เมาน์ท ,ไค ฮาแวร์ตซ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง
เปิดฉากครึ่งแรก 7 นาทีเป็น เชลซี ทักทายก่อนจากฟรีคิกหน้าเขตโทษฝั่งขวา รีซ เจมส์ หยอดบอลโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าหัว ไค ฮาแวร์ตซ สอดมาโขกกระดอนพื้นไปตรงตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด รับไว้ไม่พลาด
10 นาทีผ่าน เอฟเวอร์ตัน งานเข้าต้องมาเสียผู้เล่นตัวหลักเป็น เบน ก็อดฟรี่ย์ ตามไปแก้ตัวจากจังหวะผิดพลาดก่อนปะทะกับ ไค ฮาแวร์ตซ บาดเจ็บหนักเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวออกจากสนาม
ต่อมานาทีที่ 19 “สิงห์บลูส์” เร่งเครื่อง เมสัน เมาน์ท เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายตัดเข้าในตั้งป้อมซัดยัดเสาแรกติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดออกมาเกือบเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง โชคดี เมสัน โฮลเกต ตามสกัดได้ทัน
นาทีที่ 24 เอฟเวอร์ตัน พลาดโอกาสทอง วิตาลี่ ไมโคเลนโก้ ตามมาเก็บบอลริมเขตโทษฝั่งซ้ายตวัดเร็วย้อนมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ขวิดหวิดเสียบใต้คานติดปลายมือ เอดูอาร์ เมนดี้ นิดเดียว
ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 เชลซี หวิดได้เฮ รีซ เจมส์ เก็บบอลทางขวาปาดเข้ากลางให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สอดมาตวัดตามน้ำติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดมาเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซ้ำเข้าไปเสียดายโดนจับล้ำหน้า
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+7 “สิงห์บลูส์” ทะยานออกนำ 1-0 เบน ชิลเวลล์ ดักตัดบอลลากสวนเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนโดน อับดูลาย ดูกูเร่ ตามมาแซะร่วงลงไป เคร็ก พอว์สัน ชี้เป็นจุดโทษทันที จอร์จินโญ่ สังหารเข้าไปไม่พลาด
หมดครึ่งเวลาแรก เอฟเวอร์ตัน 0 เชลซี 1
เริ่มครึ่งหลัง 3 นาที เจ้าถิ่น หวิดตามตีเสมอ เดมาไร เกรย์ ฉวยโอกาสใช้ความเร็วตามมาเก็บบอลในเขตโทษฝั่งขวาเสียดายจังหวะยิงไม่ดีไปติดบล็อค ติอาโก้ ซิลวา แฉลบผ่านหน้าประตูหลุดออกหลัง
70 นาทีผ่านแม้ เอฟเวอร์ตัน ครองบอลน้อยกว่าแต่ขยับหาจังหวะจบสกอร์เพิ่มได้หลายครั้ง เดเล่ อัลลี่ ตัวสำรองตามมารับบอลในกรอบ 6 หลาแต่เสียสมาธิทำบอลหลุดเท้าต้องตามไปกวาดสุดท้ายออกหลัง
นาทีที่ 80 “สิงห์บลูส์” พยายามบวกสกอร์ปิดกล่องจากฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษฝั่งขวา มาร์ค กูกูเรย่า วิ่งข้ามหลอกให้ รีซ เจมส์ ลองปั่นด้วยขวาบอลผ่านกำแพงปลิ้นข้ามคานออกไปไกล
3 นาทีต่อมาคราวนี้เป็น มาร์ค กูกูเรย่า ตามมารับบอลทางซ้ายตบเข้าในคืนให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ชาร์จตามน้ำหน้ากรอบ 6 หลาติดบล็อค วิตาลี่ ไมโคเลนโก้ ตามมาขวางเอาไว้ได้เหลือเชื่อ
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เอฟเวอร์ตัน 0 เชลซี 1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน (5-4-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เนธาน แพตเตอร์สัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ , เยร์รี่ มีน่า (รูเบน วินาเกร น.70), เบน ก็อดฟรี่ย์, วิตาลี่ ไมโคเลนโก้ – เดมาไร เกรย์, อับดูลาย ดูกูเร่ , อเล็กซ์ อิโวบี้, ดไวท์ แม็คนีล (เดเล่ อัลลี่ น.61) – แอนโธนี่ กอร์ดอน
เทรนเนอร์ : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
เชลซี (3-4-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , ติอาโก้ ซิลวา , คาลิดู คูลิบาลี่ (มาร์ค กูกูเรย่า น.75) – รีซ เจมส์ , จอร์จินโญ่ (คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.99) , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ , เบน ชิลเวลล์ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.65) – เมสัน เมาน์ท (คริสเตียน พูลิซิช น.65) , ไค ฮาแวร์ตซ (อาร์มานโด้ โบรย่า น.75) , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
