สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม 2560 ภายในห้องประชุม Come Togetherที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว มิโลวาน ราเยวัชเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ
ภายในงานเปิดตัว ได้มี พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง นากยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย,พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการฝ่ายต่างประเทศฯ, นายวิทยา เลาหกุลอุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิคฯ, นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิฝ่ายต่างประเทศและโฆษกประจำสมาคม ได้ร่วมเปิดตัว มิโลวาน ราเยวัช พร้อมทีมงานอย่าง โซรัน ยานโควิช ผช.ผู้ฝึกสอนทีมชาติ และ ซาซ่า โทดิช ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูทีมชาติไทย
โดย มิโลวาน ราเยวัช กล่าวว่า “สวัสดีครับ (พูดเป็นภาษาไทย) ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ถูกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยแต่งตั้ง ฟุตบอลในประเทศไทยสามารถพัฒนาไปได้อีก ผมคิดว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่สำคัญมากของประเทศ ผมมั่นใจว่าผมเป็นส่วนหนึ่งที่พัฒนาฟุตบอลที่นี่ได้”
“ผมเห็นว่าผู้เล่นไทยแสดงออกถึงการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบ และผมเห็นถึงพรสวรรค์ผู้เล่นไทยเยอะมาก เทคนิคอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ที่ผ่านมาผู้เล่นไทยมักเล่นเกมรุก เราต้องรัดกุมกว่านี้ เราเสียประตูค่อนข้างเยอะ ซึ่งที่ผ่านมาผมทำทีมไม่เสียประตูเท่าไหร่ แน่นอนว่าผมต้องการพัฒนาแท็คติคให้ดีขึ้น รวมถึงผลลัพธ์ที่ต้องดีขึ้นไปด้วย”
“ผมมีประสบการณ์ในการพาทีมไปเล่นบอลโลกมาแล้ว แต่การไปเล่นบอลโลกรอบสุดท้ายมันต้องใช้เวลา ความใจเย็น ความทุ่มเท ไม่ใช่เฉพาะแค่ผู้เล่น แต่จากทุกๆคน ส่วนตัวผมเชื่อว่า ถ้าเราทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ได้รับการส่งเสริมจากทุกฝ่าย สำคัญที่สุดคือแฟนบอล ผมก็เชื่อว่าเราจะไปถึงจุดนั้นได้ ผมหวังว่าเราจะทำได้สำเร็จในเวิลด์คัพที่กาตาร์ (2022)”
“ส่วนเรื่องแผนการเล่น ตอนนี้ยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ในเรื่องนี้ ตอนนี้อาจเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเราจะเล่นแผนอะไร เราต้องประเมินหลายๆอย่าง ต้องเจอกับตัวนักเตะ รวมทีมกันก่อน แต่ความคาดหวังตอนนี้นักเตะต้องสามารถเล่นได้หลากหลายแผนการเล่น ผมเชื่อว่านักเตะมีความสามารถทางเทคนิคอยู่แล้ว และผมเชื่อว่าทุกคนจะปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่น หรือแผนต่างๆได้ดีครับ”
“ผมอยากพัฒนาความสามารถของทีม รวมถึงผลการแข่งขันในอีก 3 เกมที่เหลือ เราต้องการแสดงให้เห็นว่าทีมชาติไทยแข่งขันกับชาติยักษ์ใหญ่ได้ดีมากขึ้น มันสำคัญมากๆในอีก 3 เกมสุดท้าย แม้เราจะไม่มีลุ้นผ่านเข้ารอบแล้ว”
“ผมทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ทั้งตัวผู้เล่นและรูปเกมในปีที่ผ่านมา แต่อย่างที่บอกผมต้องเจอกับนักเตะก่อน เราต้องเรียนรู้กันและกัน รู้จักกันมากขึ้น และไม่ใช่แค่ผมต้องรู้จักแต่นักเตะไทย ผมต้องรู้จักคู่แข่งด้วย ซึ่งผมก็เริ่มศึกษาแล้วเพราะผมมีประสบการณ์ในเอเชียเช่นกัน”
“การรับมือกับแรงกดดัน และความคาดหวัง ผมเองก็เคยถูกถามแบบนี้มาแล้วที่กานาว่ากานาจะได้ไปบอลโลกหรือไม่ ซึ่งผมก็บอกว่าเราจะทำเต็มที่ ผมเชื่อว่าเราทำได้ ถ้าเรามีความเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด ทั้งในตัวของทีมงาน, สื่อ และ แฟนบอล สำคัญที่สุดเราต้องเป็นครอบครัวเดียวกัน เข้าใจกัน ผมย้ำอีกรอบว่าผมจะทำเต็มความสามารถ”
“แต่เราก็ต้องเข้าใจในความเป็นจริงว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน ต้องทำงานกันอย่างหนักในทุกๆฝ่าย ความคาดหวังเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่เราก็ต้องเข้าใจความเป็นจริงด้วย ความฝันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะมี ผมหวังว่าเราจะทำความฝันให้เป็นจริงด้วย ผมเชื่อว่าถ้าเราทำงานกันเป็นทีมเดียว ผมว่าความฝันไม่ไกลเกินเอื้อม”