5สิ่งที่ได้เห็นจากเกมเรือบุกเฉือนสิงห์

สื่อผู้ดีมอง 5 จุดที่เห็นจากเกม เชลซี พ่าย แมนฯ ซิตี้ คาบ้าน หลัง เควิน เดอ บรอยน์ เป็นฮีโร่ทำประตูชัยให้ “เรือใบสีฟ้า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เอาไว้ได้ หลังบุกไปเฉือนชนะ เชลซี 1-0 ถึงสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา

ขณะที่ เดลี่ เมล สื่อดังของเมืองผู้ดี เห็น 5 จุดสำคัญจากเกมดังนี้

    1. แมนฯ ซิตี้ เอาจริงกับการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้

     หลังจากทำผลงานได้น่าผิดหวังเมื่อฤดูกาลที่แล้ว กลับมาปีนี้ โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” มุ่งมั่นเต็มที่เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้

ซิตี้ เก็บไปแล้ว 19 คะแนนจาก 7 นัด นำเป็นจ่าฝูง โดยมีแต้มเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมือง แต่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า 1 ลูก

แม้เกมนี้ “เรือใบสีฟ้า” จะขาดนักเตะหลักอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทีมมีปัญหาเลย  เพราะยังสามารถครองเกมได้ดีกว่าเจ้าถิ่น

     2. เชลซี ทำพลาดที่ปล่อย เควิน เดอ บรอยน์ 

      เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เล่นได้ดีกว่า “สิงห์บลูส์” อย่างชัดเจน ก่อนมาได้ประตูชัยในนาทีที่ 67 จากการยิงอันสุดสวยของ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยียม

เดอ บรอยน์ เคยอยู่กับ เชลซี ระหว่างปี 2012-2014 แต่ไม่ได้รับโอกาส ก่อนที่จะต้องย้ายไปเล่นใน บุนเดสลีกา กับ แวร์เดอร์ เบรเมน และ โวล์ฟสบวร์ก จนกระทั่งมาอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” ในปี 2015

เดอ บรอยน์ เป็นกองกลางในแบบที่ เชลซี ขาดหายไป เพราะเขาสามารถทำได้ทุกอย่างทั้งเล่นเกมรับ, ตัดบอล, เปิดบอล, เปิดเกมรุก และที่สำคัญคือทำประตูสำคัญได้เสมอ

    3. อันโตนิโอ คอนเต้ ยังไม่เชื่อใจ มิชี่ บาตชูอายี่ 

      หลังจากที่ อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้าชาวสเปน บาดเจ็บจนต้องออกจากสนามในนาทีที่ 35 แทนที่ คอนเต้ จะเลือกส่ง บาตชูอายี่ มาเล่นแทน กลับส่ง วิลเลี่ยน ลงสนาม แล้วดัน เอแด็น อาซาร์ ไปเล่นกองหน้า

อย่างไรก็ตาม แผนนี้ไม่ได้ผล และกว่าที่ บาตชูอายี่ จะได้ลงสนามก็ต้องรอถึงช่วง 15 นาทีสุดท้าย

 4. เชลซี ต้องทำผลงานในบ้านให้ดีกว่านี้

     เชลซี คล้ายกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในฤดูกาลนี้คือ ทำผลงานนอกบ้านได้ดีกว่าในบ้าน โดยเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไป 4 นัด แพ้แล้ว 2 นัด

การจะแซงสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ หรือ สเปอร์ส ให้ได้นั้น เชลซี ต้องเก็บคะแนนในบ้านให้มากกว่านี้

    5. ความเร็วของ พรีเมียร์ลีก ดูจะไวขึ้น

แม้มีฝนโปรยปรายลงมาอยู่บ้างในเกมนี้ แต่ทั้งสองทีมก็เล่นกันด้วยความเร็ว และผ่านบอลแม่นยำ ทำให้เป็นเกมที่สร้างความพอใจให้กับแฟนบอล

ความเร็วของการเล่นทำให้แฟนบอลทั่วโลกชื่นชอบ พรีเมียร์ลีก และคงยากที่จะหาลีกอื่นมาแซงได้