หงส์โรเตชั่นแนวรุก!วาง”สเตอร์ริดจ์”หน้าเป้า,เพียงเสมอเข้ารอบ

เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจปรับเปลี่ยนผู้เล่นแดนหน้า เตรียมส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงล่าตาข่าย เกมนี้หากเสมอจะผ่านเข้ารอบทันทีโดยถ้าชนะจะเข้าป้ายแชมป์กลุ่ม ด้านทีมเยือนยังมีลุ้นเข้ารอบแต่ต้องชนะเท่านั้น ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม วันพุธที่ 6 ธ.ค.

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) – สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย)
เวลา 02.45 น. ถ่ายทอดสด บีอิน สปอร์ตส 1

สนาม : แอนฟิลด์

”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมดังของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การคุมทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จ่าฝูงของกลุ่ม อี มีอยู่ 9 คะแนน จาก 5 เกมแรก

นัดนี้พวกเขาขอเพียงผลเสมอก็จะเข้ารอบ แต่ถ้าอยากได้แชมป์กลุ่มต้องชนะให้ได้

เกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดทีมหงส์แดงฟอร์มดุ ออกไปกะซวกไบรท์ตันขาดลอย 5-1

ความพร้อมเกมนี้ทีมมีปัญหาในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ เมื่อจะขาด โฌแอล มาติป ที่เจ็บกล้ามเนื้อต้องพักร่วมเดือน ไปสมทบกับ อดัม บ็อกดาน ผู้รักษาประตูวัย 30 ปี ที่เข่าฉีก และ เนธาเนียล ไคลน์ ฟูลแบ็กที่เจ็บหลังอยู่ก่อนแล้ว

นอกจากนั้น ต้องรอดูอาการของ รักนาร์ คลาวาน และ โจ โกเมซ ที่ป่วย จนพลาดลงเล่นเกมล่าสุด ทำให้เหลือ เดยัน ลอฟเรน เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟอาชีพรายเดียว โดยมีทางเลือกฉุกเฉินคือ เอ็มเร่ ชาน และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ในกรณีที่ คลาวาน และ โกเมซ ไม่พร้อม

ตำแหน่งผู้รักษาประตูในรายการนี้ให้ ลอริส คาริอุส นายทวารรูปหล่อ ลงเฝ้าเสาตามเดิม

อย่างไรก็ตาม แนวรุกตัวเลือกเพียบ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จะได้ลงมาปั้นเกมเพื่อสนับสนุน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ ซาดิโอ มาเน่ เข้าทะลวงตาข่าย โดยรายของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พร้อมเป็นตัวเลือกเช่นกัน หากว่า คล็อปป์ ไม่โรเตชั่นในแดนหน้า

ด้าน มัสซิโม่ คาร์เรร่า กุนซือชาวอิตาเลียนของสปาร์ตัก มอสโก ทีมดังจากแดนหมีขาว เสียท่าโดน มาริบอร์ บุกมาไล่ตีเสมอ 1-1 ในเกมล่าสุด โยน 2 คะแนนทิ้งไปอย่างน่าเจ็บใจ ทำให้เกมเยือนลิเวอร์พูลต้องบุกมากำชัยให้ได้สถานเดียวเท่านั้น หากอยากเข้าสู่รอบต่อไป

นัดนี้สปาร์ตัก มอสโก ต้องขาด ดิมิทรี คอมบารอฟ, ยาโน อนานิดเซ่, อาร์เต็ม ติโมเฟเยฟ และ จอร์จี้ ติจิเยฟ ที่ไม่สมบูรณ์

ขุมกำลังในแดนกลางวาง แฟร์นานโด คุมเกมกับ เดนิส กลูชาคอฟ กัปตันทีม เปิดทางให้ อเล็คซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อีเวลิน โปปอฟ และ ควินซี่ โพรเมส ร่ายเกมรุกช่วย ลุยซ์ อาเดรียโน่ ดาวยิงจอมเก๋าวัย 30 ปี เข้าถล่มตาข่าย

    รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม 

ลิเวอร์พูล : ลอริส คาริอุส – โจ โกเมซ, รักนาร์ คลาวาน, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ – เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ซาดิโอ มาเน่

สปาร์ตัก มอสโก : อเล็คซานเดอร์ เซลิคอฟ – อันเดร เอสเชนโก้, แซร์ดาร์ ทาสชี่, อิลย่า คูเตปอฟ, จอร์จี้ จิคิย่า – แฟร์นานโด, เดนิส กลูชาคอฟ (กัปตันทีม) – อเล็คซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อีเวลิน โปปอฟ, ควินซี่ โพรเมส – ลุยซ์ อาเดรียโน่

ผู้ตัดสิน : ซิโมน มาร์ซิเนียค (โปแลนด์)

เกร็ดก่อนเกม

* เพียงแค่ลิเวอร์พูลไม่แพ้ก็จะเข้ารอบทันที และถ้าชนะจะเข้าเป็นอันดับ 1 ด้วย หรือ เสมอ แล้วเซบีย่าไม่ชนะก็เป็นอันดับ 1 เช่นกัน ส่วนสปาร์ตักเกมนี้ต้องชนะให้ได้เท่านั้น
* ลิเวอร์พูลแพ้คาบ้านครั้งเดียวจากสโมสรจากรัสเซีย โดยสถิติคือชนะ 3, เสมอ 2, แพ้ 1
* ก่อนที่จะเสมอกับเซบีย่านั้น 6 เกมยูโรเปี้ยนของลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ชนะรวด พวกเขาไม่แพ้ใครใน 12 เกมหลังยุโรปในบ้าน (ชนะ 8, เสมอ 4) นับแต่พ่ายเรอัล มาดริด 0-3 เมื่อ 22 ตุลาคม 2014
* สปาร์ตักไม่เคยชนะเกมเยือนยุโรปนับแต่ชนะอาแจ็กซ์ 1-0 ในยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก ปี 2011 โดยสถิติจากนั้นคือ เสมอ 5, แพ้ 5