ทีมแรกที่เก็บชัยได้สามนัดรวด ในช่วงตั้งแต่บ็อกซิ่งเดย์ วันสิ้นปี มาจนถึงวันปีใหม่ คือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อย่างที่รู้กันว่า ช่วงปีใหม่ของลีกอังกฤษมันโหดหิน ขณะที่ประเทศอื่นๆพักหนีหนาวกัน 2 สัปดาห์ แต่ที่อังกฤษ จะตะบี้ตะบันเตะ แถมเตะถี่ยิ่งกว่าปกติด้วย แมนฯซิตี้ ที่ชนะรวดมาตลอด ยังหลุดเสมอไป 1 เกม ส่วนแมนฯยูไนเต็ด ใน 3 นัดหลังสุด เสมอ 2 ชนะ 1 คำถามคือ ลิเวอร์พูลทำอย่างไร ถึงคว้าชัยได้ติดๆกันใน 3 นัดนี้ เริ่มจากชนะสวอนซี 5-0 ตามด้วยชนะเลสเตอร์ 2-1 และ ชนะเบิร์นลีย์ 2-1
1) คล็อปป์จริงจังกับการโรเตชั่น เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยประกาศเอาไว้แต่แรกแล้วว่าลูกทีมของเขา ต้องเข้าใจว่าทีมมีระบบหมุนเวียนนักเตะ เพื่อป้องกันความอ่อนล้าของผู้เล่น และเขาเชื่อใจนักเตะทุกคนในทีม วันที่ 30 ธันวาคม คล็อปป์ส่ง มาเน่,ฟีร์มีโน่,คูตินโญ่ และ ซาลาห์ 4 เทพลงครบ แต่จากนั้นมาอีก 2 วัน เกมเจอเบิร์นลีย์ เขาเหลือ 4 เทพ แค่ซาดิโอ มาเน่ คนเดียวนเท่านั้น ผู้รักษาประตู ใช้มิโญเลต์ – คาริอุส – มิโญเล่ต์ ขณะที่เซ็นเตอร์ มีมาติป คลาวาน กับ ลอฟเรน หมุนเวียนกันลงตลอด ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้สภาพนักเตะของทีมยังสดตลอด แม้โดนบดก็ยังไม่ยุบ
2) ยอมเล่นบอลไม่สวย ลิเวอร์พูลในอดีต ถือคติเดินหน้าฆ่าให้ตาย จนส่งผลให้เสียประตูช่วงคับขันมาในหลายๆเกม แต่ในช่วงหลัง คล็อปปเองก็ได้เรียนรู้ ว่าชัยชนะสำคัญที่สุด บางครั้งต้องยอมเล่นอุด เล่นเกมรับบ้าง เพื่อประคองสกอร์ให้ได้ เกมกับเลสเตอร์ คล็อปป์ค่อยๆถอด สามแนวรุก มาเน่,ซาลาห์,คูตินโญ่ ออก แล้วส่งกองหลังลงมาแพ็ก ตอนนำ 2-1 เช่นเดียวกับ การเจอเบิร์นลีย์ แม้จะเหลือแค่นาทีเดียว แต่คล็อปป์ก็ส่งโจเอล มาติป ลงมาปิดเกมให้แน่น นอกจากนั้นยังมีเล่นช้าดึงเวลา คือมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก
3) โปรแกรมเป็นใจ ส่วนหนึ่ง ต้องยอมรับว่าหงส์เจอกับซีรีส์ 3 เกมที่ไม่หนักมาก ไม่ต้องเจอบิ๊กทีมด้วยกัน แถมสองนัดแรก ที่เจอกับสวอนซี และเลสเตอร์ ได้เล่นในแอนฟิลด์ ทำให้โอกาสคว้าชัยก็ง่ายกว่าเดิม ขณะที่เกมล่าสุดที่เจอกับเบิร์นลีย์ เบิร์นลีย์ อยู่ในฟอร์มที่ไม่ดีเลย ก่อนหน้าเจอหงส์ พวกเขาไม่ชนะใครมา 4 เกมติดกัน แถมยิงได้แค่ 2 ลูก นอกจากนั้นกองหลังตัวหลัก สตีเฟ่น วอร์ด ยังลงเล่นไม่ได้อีกต่างหาก ทำให้ทุกอย่างเข้าทางลิเวอร์พูลง่ายขึ้น
4) กองหลังโชว์ผลงานเด่น ที่ผ่านมา กองหลัง ล้วนเป็นจุดอ่อนของหงส์แดงมาตลอด แต่ในช่วงหลังบ็อกซิ่งเดย์ ตั้งแต่การย้ายทีมของเฟอร์กิล ฟาน ไดค์ บรรดาเซ็นเตอร์แบ็ก ต่างรีดฟอร์มยอดเยี่ยมออกมา หลายคนวิเคราะห์ว่า อาจจะกลัวตำแหน่งตัวเองโดนแย่ง เกมเจอสวอนซี เก็บคลีนชีทได้ ส่วน ลอฟเรน เล่นได้ดีมาก ในเกมชนะเลสเตอร์ ขณะที่เกมล่าสุดกับเบิร์นลีย์ ทั้งลอฟเรน และ คลาวาน ก็มีส่วนสำคัญกับการพังประตู เกมเจอเลสเตอร์ กับ สวอนซี คู่เซ็นเตอร์พลาดแค่ เกมละ จังหวะเดียวเท่านั้น ซึ่งแม้จะเสียประตู แต่ถ้าไม่นับจังหวะพลาด คู่เซ็นเตอร์หงส์ก็เล่นได้เยี่ยมมากๆ
5) สปิริตยอดเยี่ยม มีความกระหาย เกมเจอเบิร์นลีย์ เป็นเครื่องชี้ชัดได้อย่างดี ว่านักเตะลิเวอร์พูล เริ่มมีดีเอ็นเอ ของนักสู้ โดนตีเสมอนาที 87 แต่ยังไม่ท้อ คัมแบ็กกลับมาได้ในช่วงทดเจ็บจริงๆสัญญาณที่ดี มีมาตั้งแต่เกมกับเลสเตอร์ ที่โดนนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 2 แต่ก็รวมสมาธิเร็ว และกลับมาชนะได้ ทีมที่มีคุณลักษณะของระดับท็อปโฟร์ ต้องมีเกมแบบนี้ให้เห็นบ้าง คือโดนนำเร็ว หรือ โดนนำช้าช่วงทดเจ็บ ก็ต้องมีสมาธิ แล้วกลับมาสู่เกมให้ได้