เล่นอะไรแผลงๆ! จอมป่วนจากแดนมะกะโรนีทำแสบแอบปลอมเป็นนักข่าวเอาเสื้อ “ปีศาจแดง” มาให้ อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่ “สิงห์บลูส์” ระหว่างแถลงข่าว แถมบอกหน้าตาเฉยของขวัญจาก โชเซ่ มูรินโญ่ เดชะบุญจบด้วยดีไม่มีมวย!
อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีม เชลซี มีอันต้องงุนงงระคนขบขัน เมื่อจู่ๆ ก็ได้รับมอบเสื้อแข่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีชื่อตัวเองติดอยู่ด้านหลังในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก่อนนำลูกทีมทำศึก เอฟเอ คัพ รอบ 5 ที่จะพบกับ ฮัลล์ ซิตี้ วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
คนขี้เล่นจาก เล เยเน่ รายการโทรทัศน์ทางช่อง อิตาเลีย 1 แดนมะกะโรนี เดินเข้ามาเปิดคลิปวิดีโอจากแท็บเล็ตให้นายใหญ่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ดู โดยคาดว่าน่าจะเป็นคำถามที่เตรียมมาให้ตอบ ก่อนหยิบเสื้อตัวดังกล่าวมามอบให้ คอนเต้ แถมบอกหน้าตาเฉยว่าเป็น “ของขวัญจาก โชเซ่ มูรินโญ่ (กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด)” ทำเอา คอนเต้ ถึงกับทำหน้างงๆ แต่ก็ยังรับมือกับสถานการณ์ประหลาดที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างสงบนิ่ง
“Antonioooo (อันโตนิโอ) เรามีของมาส่งให้คุณ ของขวัญสำหรับคุณจากเพื่อนใหม่ของคุณ Joseee Mourinhoooo (โชเซ่ มูรินโญ่) เขาบอกเราว่าเขารักคุณ มองหาสิ่งที่เขาเขียนให้คุณ … คุณคือเพื่อน, โชเซ่”
“คุณสัญญากับเราได้หรือเปล่าว่าครั้งต่อไปที่คุณเล่นกับเขา คุณจะส่งสัญญาณถึงความสงบ? มาอันโตนิโอ … คุณจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป!”
อย่างไรก็ตาม สตีฟ แอตกินส์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสาร “สิงห์บลูส์” ได้เข้ามาตัดบท พร้อมจัดระเบียบห้องแถลงข่าว ทำให้สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติในที่สุด โดยรายงานระบุว่าชายคนดังกล่าวที่แฝงตัวมาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้สื่อข่าวได้ถูกพาตัวออกจาก ค็อบแฮม สนามซ้อมของ เชลซี หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว
สำหรับเสื้อ “เร้ด เดวิลส์” ตัวดังกล่าวนั้น เป็นตัวเดียวกับที่ มูรินโญ่ เคยถูกหลอกให้เซ็นชื่อมาแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั่นเอง โดยคนขี้เล่นชาวอิตาลีได้เข้าไปประชิดตัวโค้ชชาวโปรตุเกสที่หน้าโรงแรมลาวรี่ เมืองแมนเชสเตอร์ ก่อนที่ “จ่ามู” จะใจดีตวัดปากกาแจกลายเซ็นที่ด้านหน้าให้ไปง่ายๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าด้านหลังมีชื่อของ คอนเต้
ทั้งนี้ มูรินโญ่ กับ คอนเต้ เคยระเบิดศึกน้ำลายผ่านสื่อกันมาก่อนแล้วอย่างดุเดือด โดยฝ่ายแรกบอกว่าผู้จัดการทีมบางคนทำตัวเหมือน “ตัวตลก” ตรงเส้นข้างสนาม ก่อนที่ฝ่ายหลังจะตอบโต้ด้วยการตราหน้า มูรินโญ่ ว่า “ตาแก่” และ “เด็กไม่รู้จักโต”
