จบลงไปแล้วสำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกแรก ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งการพบกันของสองทีมจากอังกฤษ จบลงด้วยชัยชนะของลิเวอร์พูล ที่สกอร์ 3-0
ตามหลักแล้ว ทีมที่แพ้ถึง 3 ลูก ยากมากที่จะคัมแบ็กกลับมา ซึ่งนั่นหมายความว่าลิเวอร์พูลเข้ารอบไปแล้วครึ่งตัว อย่างไรก็ตาม ในโลกของฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และนี่คือ 5 เหตุผลที่ เรือใบสีฟ้า มีสิทธิคัมแบ็คกลับมาได้ในเลก 2
1) หงส์ขาดกลางรับ
การที่ลิเวอร์พูลเอาชนะ แมนฯซิตี้ได้อย่างสวยงามในเลกแรก ส่วนหนึ่งเพราะผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์คอยปัดกวาด และเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้หมด จนแนวรุกสามารถบุกได้อย่างสบายใจ
แต่ปัญหาคือจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลางรับธรรมชาติคนเดียวของทีม จะติดโทษแบนในเกมต่อไป ขณะที่อีกคนที่พอจะเล่นได้คือเอ็มเร่ ชาน ก็ยังต้องรอเช็กความฟิต อาจจะหายไม่ทันในเลกที่สอง
ซึ่งถ้าหาก ไม่มีตัวรับแกร่งๆคอยหยุดเกมของเควิน เดอ บรอยน์ กับ ดาบิด ซิลบา บางทีหงส์แดงอาจโดนยิงไหลทะลุก็เป็นได้
2) ต้องลุ้นอาการซาลาห์
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีอาการเจ็บเข่า จนต้องเปลี่ยนตัวระหว่างเกมที่ชนะแมนฯซิตี้ ในเกมแรก ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกตินัก ที่นักเตะอย่างซาลาห์ จะไม่สามารถเล่นได้จนจบเกม ซึ่งแปลว่าคราวนี้ เขาคงเจ็บพอสมควรจริงๆ
ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้แถลงการณ์ว่าอาการของซาลาห์พักนานแค่ไหน แต่ถ้าหายไม่ทันเกมเลกที่ 2 อาวุธหนักของลิเวอร์พูลก็จะหายไป และคราวนี้ มันเป็นการเปิดโอกาสให้แมนฯซิตี้ บุกหนักเต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวการสวนกลับเร็วด้วย
3) เซ็นเตอร์ป่วย เกมจบแน่
จากการที่โจแอล มาติป พักยาวทั้งฤดูกาลไปแล้ว ขณะที่โจ โกเมซ ก็ไม่รู้จะหายเมื่อไหร่ เท่ากับว่า เซ็นเตอร์แบ็กของลิเวอร์พูล จะเหลือแค่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, เดยัน ลอฟเรน และ รักนาร์ คลาวาน เท่านั้น ซึ่งถ้าตัดคลาวาน ที่เป็นตัวเลือกท้ายๆออกไป ก็สรุปได้ว่า ตอนนี้เหลือแค่ฟาน ไดค์ กับ ลอฟเรน ต้องสู้ศึกอีกราวๆ 10 นัดที่เหลืออยู่
สองคน ยังคงพอประคองได้ ยังยืนหยัดเล่นคู่กันได้ แต่ถ้าหากมีใครเจ็บใครป่วยขึ้นมาสักคน ลิเวอร์พูล จะไม่มีเซ็นเตอร์แบ็กเหลืออีกแล้ว ซึ่งถ้ามาแจ๊กพอต ในเกมหน้ากับแมนฯซิตี้พอดี คราวนี้ จะมีช่องมากมาย ให้โดนทะลวงประตูแน่นอน
4) อเกวโร่คัมแบ็ก
สาเหตุสำคัญที่แมนฯซิตี้ ในเกมเมื่อคืนนี้ มีแนวรุกอ่อนยวบ เพราะพวกเขาไม่มี กุน อเกวโร่ กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีม จึงจำใจ ต้องส่ง กาเบรียล เชซุส ลงมาเล่นแนวรุกร่วมกับลีรอย ซาเน่
อเกวโร่ คือหัวหอกที่เฉียบขาด และยิงประตูลิเวอร์พูลได้ประจำ ดังนั้นการได้ อเกวโร่กลับคืนสู่ทีม ตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้ ย่อมทำให้ศักยภาพในการจบสกอร์ของแมนฯซิตี้ อันตรายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งถ้าอเกวโร่ เบิกสกอร์แรกได้เร็ว โอกาสที่จะโดนยิงไหลยาว ก็มีสิทธิเช่นกัน
5) หงส์เคยแพ้ แมนฯซิตี้ 5-0
ในช่วงต้นฤดูกาลนี้เอง ลิเวอร์พูล สู้แมนฯซิตี้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ซึ่งการเหลือ 10 ตัว จากซาดิโอ มาเน่ ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ในเกมนั้น เป็นที่ชัดเจนว่า ลิเวอร์พูลเป็นรองเรือใบสีฟ้าอย่างชัดเจนมากๆ
ดังนั้นในเชิงจิตวิทยา แมนฯซิตี้ก็ไม่มีอะไรต้องเกรงกลัว เคยชนะ 5-0 ได้แล้วครั้งหนึ่ง ทำไม จะทำอีกครั้งไม่ได้
และถ้าดูในเวทียุโรป มีหลายทีมที่เคยคัมแบ็กหลังจากตามหลังไกล ตัวอย่างเช่น บาร์เซโลน่าในฤดูกาลที่แล้ว แพ้ปารีส แซงต์แชร์กแมงในเลกแรก 0-4 แต่กลับมาชนะในบ้านตัวเอง 6-1 ซึ่งเคสแบบนี้ ก็อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้ง
