จากซาลาห์ถึงต็อตติ! 9แข้งที่ได้รับการยกย่องเป็น”เดอะ คิง”

นักเตะรายล่าสุดที่แฟนบอลต่างพากันขนานนามว่าเป็น”เดอะ คิง” นั่นคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งในอดีตถึงปัจจุบัน มีนักเตะไม่กี่คนที่เราสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็น ราชา ซึ่งในสกู๊ปนี้เราจะพาไปดูเหล่าผู้เล่นที่ได้รับเกียรติให้เป็น เดอะ คิง มีใครบ้างไปดูกันได้เลย

    1. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – “The Egyptian King” ราชาแห่งอียิปต์

  แม้เขาจะเข้ามาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น แต่ผลงานระดับมาสเตอร์พีซเป็นสิ่งที่ทำให้ซาลาห์ ได้รับการยอมรับจากสาวกเดอะ ค็อป และแฟนบอลทั่วโลก

นอกจาก 43 ประตูในฤดูกาลนี้กับลิเวอร์พูล ผู้นำดาวซัลโวพรีเมียร์ในตอนนี้ ยังนำพาชาติบ้านเกิดไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี จึงไม่แปลกเลยที่เหล่าแฟนบอลโดยเฉพาะชาวมัมมี่จะเรียกเขาว่า ราชาแห่งอียิปต์

   2. ฟรานเชสโก้ ต็อตติ – “The King of Rome” ราชาแห่งกรุงโรม

  ตลอดระยะเวลา 24 ปี ที่ต็อตติ โลดแล่นบนสังเวียนลูกหนังกับโรม่า เขาไม่เคยย้ายออกไปไหนเลยแม้มีข้อเสนอที่แสนงามจากเรอัล มาดริด

ในปัจจุบันที่เขาเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว เขาก็ยังได้รับเกียรติจากสโมสร และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลกที่ลงเล่นให้ทีมเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง

    3. เคนนี่ ดัลกลิช – “King Kenny” คิง เคนนี่

    ซาลาห์ ไม่ใช่นักเตะคนแรกของลิเวอร์พูลที่ได้รับฉายาเดอะ คิง

เคนนี่ ดัลกลิช ทำผลงาน 172 ประตู จาก 515 เกม รวมถึง 6 แชมป์ลีก 3 แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ทั้งในฐานะนักเตะและกุนซือของเร้ดแมชชีน และเมื่อไม่นานนี้ สโมสรลิเวอร์พูลได้เปลี่ยนชื่ออัฒจันทร์ฝั่ง เซ็นเทนารี่ สแตนด์ (Centenary Stand) ให้เป็นชื่อ เคนนี่ ดัลกลิช สแตนด์

เพียงเท่านี้คงไม่ต้องบอกอะไรมากว่าคิง เคนนี่ ยอดเยี่ยมเพียงใดกับลิเวอร์พูล

    4. เอริค คันโตน่า – “King Eric” คิง เอริค

 หนึ่งปีก่อนหน้าที่จะสวมชุดปีศาจแดง คันโตน่าพาลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ จึงทำให้เฟอร์กี้ ไม่รอช้าคว้าตัวเอริค มาร่วมทีม และเป็นหนึ่งในผู้เล่นยุคบุกเบิกการล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ขายวิญญาณให้ผีแดง เขาพาทีมกวาดแชมป์ลีกไปถึง 4 ครั้ง บวกกับแชมป์เอฟเอ คัพอีก สองสมัย แม้เวลาจะผ่านมากว่า 20 ปีนับจากที่เขาแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควร แต่คันโตน่า ก็ยังเป็นที่รักของแฟนๆปีศาจแดง เหมือนอย่างที่เราเห็นได้จากภาพข่าวในช่วงสงกรานต์บ้านเราที่ผ่านมา

 5. อลัน กิลซีน และ เกล็น ฮอดเดิ้ล – “The King of White Hart Lane” ราชาแห่งไวท์ ฮาร์ท เลน

กิลซีน ย้ายเข้าร่วมทัพไก่เดือยทองเมื่อปี 1964 และเป็นที่รักของแฟนบอลสเปอร์สเป็นอย่างมาก จนในยุคต่อมา เกล็น ฮอดเดิ้ล จะมารับช่วงต่อความเป็นเดอะ คิง ต่อจากอลัน กิลซีน

    6. เควิน คีแกน – “King Kev” คิง เคฟ

   ทุกสโมสรที่คิง เคฟ เคยลงเล่นไม่ว่าจะเป็นลิเวอร์พูล, ฮัมบูร์ก, เซาธ์แฮมป์ตัน และนิวคาสเซิล เขาได้รับการยอมรับจากแฟนบอลในทุกๆที่ และในช่วงที่เขาเป็นผู้จัดการทีมก็เกือบพาสาลิกาดง คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้

   7. เฮนริค ลาร์สสัน – “The King of Kings” ราชันแห่งราชา

  แม้ในช่วงบั้นปลายอาชีพ ลาร์สสันได้มาค้าแข้งกับทีมใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า และแมนฯยูไนเต็ด แต่ก่อนหน้านั้นเขาสถาปนาตัวเองเป็น เดอะ คิง ที่เซลติก ด้วยผลงานทำประตู 242 ในชุดขาว-เขียว จนแฟนๆร้องเพลง “The King of Kings” ให้แก่เจ้าตัว

 8. ปีเตอร์ ออสกู้ด – “The King of Stamford Bridge” ราชาแห่งสแตมฟอร์ด บริดจ์

  ออสกู้ด มีช่วงเวลาที่แสนหวานตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่อยู่กับเชลซี 380 นัด 150 ประตู เขาคือผู้ทำประตูชัยให้สิงโตน้ำเงินคราม คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้ในปี 1970 และในปีต่อมาก็พาเชลซี ล้มเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ มาครองได้

ในปัจจุบันหากใครไปเยี่ยมชมรั้งเหย้าของสิงห์บลูส์ ก็จะเห็นรูปปั้นของเขายืนตระหง่านอยู่หน้าสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

    9. เปเล่ – “O Rel” ราชาแห่งฟุตบอล

เปเล่ ถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ด้วยผลงานที่พาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และจำนวนประตู 77 ประตู จาก 92 นัดในนามทัพเซเลเซา เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดที่จะให้เขาคือ ราชาแห่งฟุตบอล