ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีการฟาดแข้งกันถึง 7 คู่ โดยที่มีทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ลงเตะกันอย่างพร้อมหน้า ซึ่ง “หงส์แดง” กับ “เรือใบสีฟ้า” ต่างเก็บชัยได้ตามเป้า ส่วนอีกสองรายต้องพบกับผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง และก็แน่นอนว่า ทั้ง 7 เกม 7 สนามเมื่อคืนวันเสาร์ มีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมายเลยทีเดียว
ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1
– เลสเตอร์ เจอไปแล้ว 4 ใบแดงในฤดูกาลนี้ ซึ่งมากกว่าทุกๆ ทีม รองลงมาคือ เอฟเวอร์ตัน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ไปทีมละ 2 ใบ
– เกล็นน์ มาร์รี่ย์ หัวหอก ไบรท์ตัน ลงเล่นในเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 100 นัด ด้วยอายุ 35 ปี กับ 60 วัน ซึ่งถือเป็นผู้เล่นเอาต์ฟิลด์ (ทุกตำแหน่งยกเว้น ผู้รักษาประตู) อายุมากสุดอันดับ 9 ที่ทำสถิติดังกล่าวได้
– เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิง เลสเตอร์ กลับมาทำประตูได้ หลังปืนฝืดไปนาน 468 นาที
– นับตั้งแต่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรก เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2014 วาร์ดี้ ทำประตูจากการยิงจุดโทษไปแล้ว 12 ลูก โดยมีแค่ เซร์คิโอ อเกวโร่ (17) กับ แฮร์รี่ เคน (16) เท่านั้นที่มีสถิติดีกว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ฟูแล่ม ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2
– อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 585 นาที หรือนับตั้งแต่ประตูที่ทำใส่ วัตฟอร์ด เมื่อช่วงเดือนกันยายน
– มิโตรวิช ทำประตูจากลูกโขกไปแล้ว 4 ลูกในฤดูกาลนี้ ซึ่งมากกว่าทุกๆ คน
– เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือป้ายแดง ฟูแล่ม เก็บชัยในการคุมทีมลงเตะเกมลีกนัดแรกได้ถึง 6 จาก 7 ครั้งหลังสุด (แพ้ 1)
– ฟูแล่ม เป็นเพียงทีมเดียวในฤดูกาลนี้ที่ยังเก็บคลีนชีตไม่ได้เอฟเวอร์ตัน ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 1-0
– เอฟเวอร์ตัน แพ้แค่หนเดียว ในเกมลีก 10 นัดหลังสุดที่บ้าน (ชนะ 6 เสมอ 3)
– คาร์ดิฟฟ์ เป็นทีมที่ทำประตูเกมเยือนน้อยสุดในฤดูกาลนี้ ที่จำนวน 2 ลูก
– นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน เป็นผู้เล่นที่ทำประตูให้ เอฟเวอร์ตัน ได้มากที่สุด (รวมทุกรายการ) ที่จำนวน 13 ลูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0
– นับตั้งแต่ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2016 แมนฯ ยูไนเต็ด จบเกม พรีเมียร์ลีก ด้วยสกอร์ 0-0 มาแล้วถึง 10 ครั้ง ซึ่งหากนับในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มีแค่ เซาธ์แฮมป์ตัน เพียงทีมเดียวที่จบเกมแบบไร้สกอร์มากกว่า (15)
– นี่คือการเจ๊า 0-0 หนที่ 65 ของ “ปีศาจแดง” ยุค พรีเมียร์ลีก แต่ 20 จาก 65 ครั้ง เกิดขึ้นภายใน 6 ซีซั่น หลังจากการวางมือของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
– นี่คือคลีนชีตในเกม พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
– แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ คริสตัล พาเลซ ใน 21 เกมลีกหลังสุดที่เจอกัน (ชนะ 17 เสมอ 4)
– เกมนี้ คริสตัล พาเลซ มีโอกาสยิงถึง 13 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดในการเล่นเกมเยือนฤดูกาลนี้ของพวกเขา แต่ยิงตรงกรอบแค่ 2 หนเท่านั้น
วัตฟอร์ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
– ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ต 13 เกมแรกในลีกโดยที่ไม่แพ้ใครเป็นหนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2007-08
– ตอนนี้ “หงส์แดง” เสียแค่ 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเสียประตูน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยุค พรีเมียร์ลีก ของพวกเขา หลังจากลงเตะไปแล้ว 13 นัด
– วัตฟอร์ด แพ้ถึง 16 จาก 18 เกมที่เจอกับทีมในสองอันดับแรก
– จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลิเวอร์พูล โดนไล่ออกในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นหนแรก นับตั้งแต่เกมที่ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2014
– โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นผู้เล่นที่ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ให้ ลิเวอร์พูล ยุคกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มากที่สุด ที่จำนวน 39 ลูก ถึงแม้เจ้าตัวลงเล่นแค่ 41% เท่านั้น จากจำนวนเกมทั้งหมดของ “หงส์แดง” ยุค คล็อปป์ (49/119)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4
– นับตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2016 แมนฯ ซิตี้ ทำประตูในศึก พรีเมียร์ลีก อย่างน้อยเกมละ 4 ลูก มาแล้วถึง 21 ครั้ง ซึ่งหากนับในช่วงเวลาเดียวกัน ลิเวอร์พูล ตามมาอันดับสองที่ 18 ครั้ง
– แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้ในเกม พรีเมียร์ลีก มา 19 นัดติดแล้ว (ชนะ 16 เสมอ 3) และในช่วงดังกล่าวเสียแค่ 8 ประตูเท่านั้น
– เป็นครั้งแรกสำหรับ ดาบิด ซิลวา ที่ทำประตูให้ “เรือใบสีฟ้า” ได้ 4 เกมติด (รวมทุกรายการ)
– เวสต์แฮม แพ้ แมนฯ ซิตี้ ทั้ง 4 ครั้งที่เจอกันในสังเวียนแข้ง ลอนดอน สเตเดี้ยม
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ชนะ เชลซี 3-1
– สเปอร์ส ชนะ เชลซี ได้ถึง 3 จาก 4 ครั้งหลังสุด (แพ้ 1) ที่เจอกันใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นจำนวนชัยชนะเท่ากับการเจอกัน 20 ครั้งก่อนหน้านั้น (ชนะ 3 เสมอ 9 แพ้ 8)
– เชลซี แพ้เกมลีกเป็นหนแรกในฤดูกาลนี้ โดยการปราชัยครั้งล่าสุดคือการแพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-3 ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว
– นับตั้งแต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้าคุมทีมเมื่อปี 2014 สเปอร์ส เป็นทีมที่เก็บชัยชนะในศึก “ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์” มากที่สุดถึง 22 ครั้ง
– ซน ฮึง-มิน ทำประตูที่ 50 ให้กับตัวเองในสีเสื้อ “ไก่เดือยทอง” จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 154 นัด
– แฮร์รี่ เคน ดาวยิง สเปอร์ส ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นัด “ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์” ไปแล้ว 25 ลูก ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดเทียบเท่ากับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตหัวหอก อาร์เซน่อล
– โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หัวหอก เชลซี กลายเป็นผู้เล่นคนที่สองในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ทำประตูแตะหลัก 20 ลูกในฐานะตัวสำรอง โดยคนแรกคือ เจอร์เมน เดโฟ (24)
– เกมนี้ คริสเตียน อีริคเซ่น จอมทัพ “ไก่เดือยทอง” สร้างโอกาสได้ถึง 7 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในหนึ่งเกมฤดูกาลนี้
