ส่องแมนยูเตรียมพร้อมดวลยังบอยส์ลุยชปล.

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสอย่างมากที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อพวกเขามีคิวรับการมาเยือนของ ยัง บอยส์ ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลุ่ม เอช วันอังคารนี้

ถ้าในวันเดียวกัน ยูเวนตุส ปราบ บาเลนเซีย ได้ และ “ปีศาจแดง” คว้า 3 คะแนนสำคัญในการดวลกับทีมดังจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แน่นอนว่าจะทำให้พวกเขาการันตรีในการได้อย่างน้อยอันดับ 2 ของกลุ่ม

สำหรับตอนนี้ทีมของกุนซือโชเซ่ มูรินโญ่ ได้เสร็จสิ้นการเตรียมตัวสำหรับแมตช์สำคัญนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเกมรับของ “ผีแดง” ที่ต้องขาดทั้ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, มาร์กอส โรโฮ และ มัตเตโอ ดาร์เมียน อย่างไรก็ตามทีมได้นักเตะหลักอย่าง ปอล ป็อกบา, ดีเอโก้ ดาโลต์  และ โรเมลู ลูกากู พร้อมลงช่วยต้นสังกัดในแมตช์สำคัญนี้

1. ได้เวลาเค้นศักยภาพที่แท้จริง
สำหรับตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีมากนักสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่การที่พวกเขาคว่ำ ยูเวนตุส ในเกมฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรปแมตช์ล่าสุด ทำให้ตอนนี้พวกเขาสามารถคุมสถานการณ์ในการลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์

แน่นอนว่าการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นแรงกดดันสำคัญสำหรับ มูรินโญ่ โดยทัพ “ปีศาจแดง” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียกขวัญกำลังใจ และแรงกระตุ้นในการเล่นให้ดียิ่งขึ้น โดยหากทีมสามารถทำได้ตามเป้าหมายขั้นต้น น่าจะทำให้พวกเขากลับมามีความเชื่อมั่นในการลุยเกมลีกเมืองผู้ดีต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยัง บอยส์ เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถสร้างผลการแข่งขันที่สุดเซอร์ไพรส์ได้เช่นกันด้วยการเสมอ “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย ในเกมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ฉะนั้นหาก แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการชัยชนะพวกเขาจำเป็นต้องเค้นศักยภาพที่มีอยู่ออกมาให้ได้

2. โอกาสดีของ แกรนท์ ?
ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูจอมหนึบทีมชาติสเปน ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ และในแมตช์รับมือ ยัง บอยส์ มีความเป็นได้ที่ มูรินโญ่ จะมอบของขวัญพิเศษให้กับ โกล์เลือดกระทิงดุ ด้วยการให้เจ้าตัวได้พัก เพราะโปรแกรมในเกมนี้ไม่ค่อยน่ากังวลมากนัก

แน่นอนว่านั่นจะทำให้ ลี แกรนท์ ซึ่งเพิ่งได้ลงเฝ้าเสาให้ “เร้ด เดวิลส์” เพียงแค่ 1 เดียวเท่านั้นนับตั้งแต่ย้ายมาทำมาหารับประทานที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงซัมเมอร์นี้ นั่นก็คือเกมที่ต้นสังกัดตกรอบศึกคาราบาว คัพ ด้วยน้ำมือขง ดาร์บี้ เคาน์ตี้

ฉะนั้น นายทวารมากประสบการณ์ชาวอังกฤษ วัย 35 ปี อาจจะได้รับโอกาสทองในการเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แมตช์นี้ หาก มูรินโญ่ อยากจะพัก เด เคอา ที่กรำศึกมาตลอด (หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้)

3. ช่วงเวลาที่แสนยากลำบาก (หรือเปล่า ?)  
แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ยับต่อ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อนบ้านที่แสนน่ารำคาญ และทำได้แค่เสมอ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าบรรดาขุนพล “ปีศาจแดง” และ มูรินโญ่ ยังแสดงให้เห็นถึงสปิริตที่มุ่งมั่นในช่วงที่ทำการฝึกซ้อมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

นักเตะหลายคนลงฝึกซ้อมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่ นายใหญ่ชาวโปรตุกีส ก็ดูเหมือนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ฉะนั้นจะบอกว่าทีมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับฟอร์มการเล่นของทีมในช่วงที่ผ่านมา ต้องบอกว่าพวกเขาไม่ได้ดูเหมือนเป็นแบบนั้นเลย

4. ได้เวลา ดาโลต์
ดีโอโก้ ดาโลต์ ต้องเจอกับช่วงเริ่มต้นที่แสนยากลำบากกับอาชีพพ่อค้าแข้งของเขาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยฟูลแบ็กชาวโปรตุกีส เคยได้รับบาดเจ็บ 2 ครั้ง และมีโอกาสลงสนามให้กับต้นสังกัดเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น ซึ่งถือว่าน่าผิดหวังมากๆ เมื่อเทียบกับศักยภาพของนักเตะตอนที่เล่นให้เอฟซี ปอร์โต้

ตอนนี้ ดาโลต์ กลับมาฝึกซ้อมร่วมฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมในแมตช์ดวล ยัง บอยส์ ที่เธียเตอร์ ออฟ ดรีม หรือโรงละครแห่งความฝัน เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 5 และบรรดาสาวก “เร้ด อาร์มี่” กระสันเห็น ฟูลแบ็กดาวโรนจ์ รายนี้ลงสนามช่วยทีมแล้ว

5. ปล่อยวางเสียงวิจารณ์
หนึ่งในสิ่งที่ ปอล ป็อกบา โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักก็คือการที่เขามักจะชอบทำตัวโอ้อวดชีวิตส่วนตัวผ่านสื่อสังคมออนไลน์มากเกินไป อย่างไรก็ตามหากมองในเชิงบวกสิ่งที่หลายๆ คนวิจารณ์เป็นสิ่งที่มีคุณค่า และช่วยให้นักเตะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนที่เขาได้บอล และพยายามเล่นบอลให้ง่ายขึ้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวฝรั่งเศสซึ่งช่วยทัพ “ตราไก่” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไม่ปล่อยให้ความเกลียดชังมีผลกระทบกับเขา และพยายามแสดงผลงานดีมีคุณภาพต่อไปเรื่อยๆ ทั้งในเวลาฝึกซ้อม และยามลงสนามแข่ง