ลอนดอนโคตรเดือด! โอบาเมย็องเบิ้ล อาร์เซน่อลรัว3เม็ดครึ่งหลังพลิกแซงสเปอร์ส10ตัว

อาร์เซน่อลกลับมาโชว์ฟอร์มดุในครึ่งหลังอีกแล้ว หลังยิง 3 ประตูรวดพลิกแซงสเปอร์สไปแบบสุดมันส์ 4-2 โดยเกมนี้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมอย็อง กดสองประตู ช่วยให้ “ปืนใหญ่” ไม่แพ้ใคร 19 นัดทุกรายการ ส่วนสเปอร์ส หยุดสถิติชนะรวดทุกรายการไว้ที่ 6 เกมติดต่อกัน ในฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 61

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2561
อาร์เซน่อล    4-2   สเปอร์ส

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

“ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทัพของอูไน เอเมอรี่ แนวรุกวาง เฮนริค มคิทาร์ยาน ทำเกมร่วมกับ อเล็กซ์ อิโวบี้ คอยป้อนบอลให้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมอย็อง ดาวยิงประจำทีมที่ซัดไปแล้ว 8 ประตูในลีก เข้าปิดสกอร์

ทางด้าน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ของกุนซือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เกมนี้ได้ ฮวน ฟอยธ์ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งทีมชาติอาร์เจนตินา กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง

เริ่มเกมมาเพียง 10 นาที อาร์เซน่อล ได้จุดโทษ หลังจาก แยน แฟร์ต็องเก้น ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ก่อนจะเป็น ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ อาร์เซน่อล นำ 1-0

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ เซอัด โคลาซินัช จ่ายต่อให้กับ อเล็กซ์ อิโวบี้ ซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษติดเซฟของอูโก้ โยริส

สเปอร์ส ตอบโต้กลับมาบ้าง คริสเตียน เอริคเซ่น เปิดต่อให้กับ ซน ฮึง-มิน กระชากเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนสับด้วยซ้ายเสาแรก แต่  แบร์นด์ เลโน่ นายทวารของอาร์เซน่อล ป้องกันไว้ได้ในนาทีที่ 23

ครึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน สเปอร์ส ที่ตั้งเกมได้แล้วมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ คริสเตียน เอริคเซ่น โยนฟรีคิกจากทางด้านซ้ายไปเสาแรกให้กับ เอริค ดายเออร์ โฉบมาโหม่งเช็ดบางๆ บอลเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม

จากนั้น สเปอร์ส ที่รุกเร็วเข้าใส่จนมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซน ฮึง-มิน หลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนโดน ร็อบ โฮลดิ้ง เข้าสกัดล้มลง ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน เป่าจุดโทษทันที ก่อนที่ แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ สเปอร์ส พลิกกลับมานำ 2-1 ใน น. 34 และเป็นประตูที่ 8 ของ เคน ใน พรีเมียร์ ลีก ซีซั่นนี้

หลังจากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรก สเปอร์ส นำ อาร์เซน่อล 2-1

ครึ่งหลัง น.50 สเปอร์ส เกือบได้ลูกสาม แฮรี่ เคน ปั่นฟรีคิกบอลกำลังจะเสียบใต้คาน แต่ เลโน่ บิดปัดไว้ได้หวุดหวิด

น.56 อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ 2-2 เอคตอร์ เบเยริน จ่ายบอลจากแนวรับให้ อาร์รอน แรมซีย์ หน้าเขตโทษสเปอร์ส ก่อนจะตวัดบอลให้ โอบาเมอย็อง ปั่นแบบไม่จับบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม

น.68 สเปอร์ส เกือบขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ เบเยริน ทำพลาดไปจ่ายบอลให้ ซน ฮึง-มิน ได้ตั้งเป้าซัดหน้าเขตโทษ แต่ เลโน่ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟได้อีกครั้ง

จากนั้น น.75 ปืนใหญ่ ที่บุกมากกว่าได้ประตูขึ้นนำ 3-2 จากจังหวะที่ แรมซีย์ จ่ายให้ ลากาแซตต์ จับหนึ่ซัดด้วยซ้ายแบบไม่ถนัด แต่โชคดีบอลไปแฉลบ ดายเออร์ บอลเสียบเสาเข้าไป โยริส หมดสิทธิ์เซฟ

เท่านั้นไม่พอ น.77 อาร์เซน่อล นำห่าง 4-2 โอบาเมย็อง จ่ายทะลุช่องให้ ตอร์เรยร่า หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเสียบเสาสองเข้าไปแบบสุดสวย

สถานการณ์ของสเปอร์สย่ำแย่ลงไปอีก ใน น.85 เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน หลัง ยาน แฟร์ต็องเก้น ม ไปเสียบ ลากาแซ็ตต์ เลยโดนใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกไป

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เซน่อล เอาชนะ สเปอร์ส 4-2 ขึ้นรั้งอันดับ 4 มี 30 แต้มเท่ากับ สเปอร์ส อันดับ 5

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

อาร์เซน่อล: แบร์นด์ เลโน่ – ชโคดราน มุสตาฟี่ (มัตเตโอ เก็นดูซี่ น.71), โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, ร็อบ โฮลดิ้ง – เอคตอร์ เบเยริน, ลูคัส ตอร์เรยร่า, กรานิต ชาค่า, เซอัด โคลาซินัช – เฮนริค มคิทาร์ยาน (อารอน แรมซี่ย์ น.46), อเล็กซ์ อิโวบี้ (อเล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ น.46) – ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมอย็อง

สเปอร์ส: อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) – แซร์ช โอริเย่ร์, ฮวน ฟอยธ์, ยาน แฟร์ต็องเก้น, เบน เดวิส (แดนนี่ โรส น.82) – มุสซ่า ซิสโซโก้, เอริค ดายเออร์ – คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่ (แฮร์รี่ วิงค์ส น.80), ซน ฮึง-มิน (ลูคัส มูร่า น.80) – แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน: ไมค์ ดีน