ลิเวอร์พูลมา3! 5 การเซ็นสัญญาเดือนมกราคมที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก

ตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมกราคมเปิดตัวขึ้นแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีดีลใหญ่ๆเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้มากมาย มีทั้งการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม และล้มเหลว เราจะพาไปย้อนดูว่าไปช่วงนี้มีใครกันบ้างที่ถูกยกว่าเป็นการเซ็นสัญญาดี และคุ้มค่ามากที่สุดในพรีเมียร์ลีกตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

5.เฟลิปเป้ คูตินโญ่ 

สโมสร : จาก อินเตอร์ มิลาน ไป ลิเวอร์พูล 
วันที่ : 30 มกราคม 2013  
ค่าตัว : 8.5 ล้านปอนด์

    หลังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนักกับ อินเตอร์ มิลาน ทำให้มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนตัดสินใจย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2012 ด้วยค่าตัวเพียง 8.5 ล้านปอนด์ ในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามอง     อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่ปีในถิ่น แอนฟิลด์ เขาพัฒนาฝีเท้าจนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ระดับท็อปของยุโรป กลายเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีม โดยตลอด 6 ฤดูกาล เขาฝากผลงานไว้ที่ 54 ประตู จาก 201 ทุกรายการ ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปบาร์เซโลน่าในเดือนมกราคม 2018 ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 142 ล้านปอนด์ กลายเป็นอีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดของลิเวอร์พูลในช่วงเดือนมกราคม

4.เฟอร์กิล ฟาน ไดค์

สโมสร : จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ไป ลิเวอร์พูล 
วันที่ : 1 มกราคม 2018 
ค่าตัว : 75 ล้านปอนด์ 

    ลิเวอร์พูลต้องทุ่มเงินมหาศาลถึง 75 ล้านปอนด์ ให้กับเซาธ์แฮมป์ตันเพื่อเป็นค่าตัวของกองหลังชาวดัตช์ และทำให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิติค่าตัวกองหลังที่แพงสุดในประวัติศาสตร์

    อย่างไรก็ตามเขาใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวเข้ากับทีมใหม่กลายมาเป็นกุญแจสำคัญไขเกมรับให้แน่นขึ้นทันตาเห็น อ่านเกม และเล่นลูกกลางอากศได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นส่วนสำคัญทำให้ทีมเสียประตูน้อยสุดในพรีเมียร์ลีก ณ ปัจจุบัน และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาตอบแทนผลงานได้คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ต้นสังกัดเสียไปทุกบาททุกสตางค์ 

3.ปาทริซ เอวร่า

สโมสร : จาก โมนาโก ไป แมนฯ ยูไนเต็ด 
วันที่ : 10 มกราคม 2006 
ค่าตัว : 5.5 ล้านปอนด์ 

    แบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศสตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมในยุโรป หลังทำผลงานน่าประทับใจกับ โมนาโก โดยเฉพาะจากการมีส่วนร่วมในการพาสโมสรเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในปี 2004 แม้สุดท้ายจะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้แต่จากผลงานส่วนตัวตลอด 5 ปี ในถิ่น สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่น่าจับตามอง 

    จนในปี 2006 เอวร่า ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์ เพื่อมาแก้ไขปัญหาแบ็คซ้ายหลัง กาเบรียล ไฮน์เซ่ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เจ้าตัวจะโชว์ฟอร์มเด่นขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีสุดในโลก เขามีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์ใหญ่ๆมากมายทั้ง พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ สโมสรแลก อย่างละ 1 สมัย  

2.หลุยส์ ซัวเรซ 

สโมสร : จาก อาแจ็กซ์ ไป ลิเวอร์พูล 
วันที่ : 28 มกราคม 2011 
ค่าตัว : 26.5 ล้านยูโร 

    หลังจากกองหน้าชาวอุรุกวัยโชว์ผลงานสุดยอดกับอาแจ็กซ์ทำ 115 ประตู จาก 159 เกมทุกรายการ ตั้งแต่ฤดูกาล 2007-11 ลิเวอร์พูลตัดสินใจดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 26.5 ล้านยูโร เพื่อมาเป็นตัวตายตัวแทนของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ที่เตรียมย้ายไปอยู่เชลซี 

    จากนั้นเพียงปีเดียวเท่านั้นเขาก็กลายเป็นกุญแจสำคัญของทีม และกลายเป็ขวัญใจคนใหม่ของสาวก “เดอะ ค็อป” ได้เพียงไม่นาน พร้อมเป็นเจ้าของราวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร 2 สมัย ในฤดูกาล 2012-13 และ 2013-14 รวมถึงเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2013-14 ที่จำนวน 31 ประตู จากการลงเล่น 33 เกม ก่อนจะย้ายไปบาร์เซโลน่าในปีถัดมา 

1.เนมานย่า วิดิช 

สโมสร : จาก สปาตัก มอสโกว ไป แมนฯ ยูไนเต็ด 
วันที่ : 5 มกราคม 2006 
ค่าตัว : 7 ล้านปอนด์ 

    หลังปราการหลังชาวเซอร์เบียโชว์ผลงานน่าประทับใจในลีกรัสเซียกับ สปาร์ตัคมอสโก ในฤดูกาล 2004-06 และในฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติเซอร์เบีย ทำให้ฟอร์มไปเตะตา แมนฯ ยูไนเต็ด กระชากตัวมาด้วยค่าตัวเพียง 7 ล้านปอนด์   

    วิดิช ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอโดยครึ่งฤดูกาลแรก 2006-07 เขาได้ลงเล่นถึง 25 เกม เข้ามาจับคู่เล่นกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คได้เข้าขากันสุดๆ กลายเป็นคู่เซ็นเตอร์ที่ถูกยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ณ ขณะนั้น เป็นส่วนสำคัญพาทีมประสบความสำเร็จมากมายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 5 สมัย และ ยฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัย