เหมือนว่าโอกาสในการลุ้นแชมป์ลีกของพลพรรค “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ได้หลุดลอยไปแล้ว หลังพวกเขาพลาดท่าพ่ายไปเสมอ เบรเมน 2-2 จนต้องตามหลังบาเยิร์น มิวนิค 4 แต้มในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 2 นัดเท่านั้น
แต่พูดกันตามจริงก็คงจะเร็วไปถ้าจะบอกว่าความหวังของดอร์ทมุนด์ในฤดูกาลนี้จบสิ้นลงไปแล้ว เมื่อบาเยิร์นก็เกิดอาการสะดุดเหมือนกันในนัดล่าสุดที่พบกับเนือร์นแบร์ก โดยทำได้เพียงเสมอ พลาดโอกาสทิ้งห่างดอร์ทมุนด์เป็น 4 คะแนน วันนี้เรามาดูกันว่าทำไมดอร์ทมุนด์ยังคงมีหวังคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาลนี้อยู่
1) บาเยิร์นยังเหลืองานช้างทั้งไลป์ซิกและแฟรงค์เฟิร์ต
สถานการณ์ของดอร์ทมุนด์ในตอนนี้คงต้องหวังพึ่งทีมอื่นหากต้องการลุ้นแชมป์อยู่ แม้ว่า ฮันโนเวอร์ ทีมท้ายตารางที่ดิ้นหนีตาย สร้างเซอร์ไพรส์ไม่สำเร็จกับ บาเยิร์น เพื่อยึดโควต้าเล่นเพลย์ออฟหนีตกชั้นก็ตาม แต่ทีมที่ดอร์ทมุนด์หวังพึ่งจริงๆ คงต้องเป็นแอร์เบ ไลป์ซิก และ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต
ไลป์ซิกถือว่ามาแรงเอาเรื่อง พวกเขาไม่แพ้ใครมา6เกมล่าสุด โดยหลังจากพ่ายให้ดอร์ทมุนด์ในเกมแรกของปี 2019 ก็ยังไม่แพ้ใครอีกเลย แม้ไลป์ซิกจะสามารถการันตีพื้นที่โควต้าฟุตบอลยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้าได้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังหวังว่าจะสามารถเบียดดอร์ทมุนด์ขึ้นไปครองตำแหน่งรองแชมป์ในปีนี้จงได้
ขณะที่แฟรงค์เฟิร์ตจะได้โอกาสต้อนรับการกลับมาของนิโก้ โควัช อดีตกุนซือของพวกเขาที่ย้ายไปคุมทีมเสือใต้
ทำให้เชื่อได้เลยว่าเกมนี้พวกเขาจะสู้สุดใจอย่างแน่นอน ปัจจุบันทีมอินทรีแดง-ดำอยู่ในอันดับ 4 บนตาราง แต่มีแต้มนำโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัคและไบเออร์ เลเวอร์คูเซนอยู่เพียงนิดเดียวเท่านั้น ซึ่งงานนี้อาดี้ ฮึทเทอร์น่าจะสั่งลูกทีมสู้เต็มที่เพื่อเป้าหมายจบฤดูกาลในอันดับท็อปโฟร์
2) แต้มห่างกันเพียง 4 คะแนน แต่มีให้เก็บอีก 6 คะแนน
ถ้าว่ากันด้วยหลักทางคณิตศาสตร์อย่างง่ายๆ หากบาเยิร์นชนะทุกเกมที่เหลือ พวกเขาก็จะคว้าแชมป์ได้อย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสนผลการแข่งขันของดอร์ทมุนด์ว่าจะออกมาอย่างไร แต่หากบาเยิร์นพลาดท่าเสมอ2เกม และดอร์ทมุนด์เอาชนะได้ทุกเกม ก็จะต้องมาวัดกันที่ผลประตูได้-เสีย ซึ่งยังมีโอกาสที่ดอร์ทมุนด์จะเดินหน้าโกยแต้มและตุนประตูไว้ลุ้นในโค้งสุดท้ายจากแวร์เดอร์ เบรเมน ดุสเซลดอร์ฟ และกลัดบัค
3) ซานโชจ่ายแอสซิสต์เหนือเมสซี
อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีแข้งดาวรุ่งปีกพ่อมดคนนี้อยู่ในทีม ซานโชทำแอสซิสต์ไปถึง 14 ลูก มากที่สุดในท็อป 5 ลีกยุโรป แถมยังยิงได้อีกถึง 11 ประตู แม้แข้งดาวโรจน์จากกรุงลอนดอนรายนี้จะพามาร์โค รอยส์หนีโทษแบนกลับมาลงสนามไม่ได้ แต่เขาจะมุ่งมั่นเล่นงานคู่แข่งในนัดที่เหลือเพื่อลุ้นแชมป์จากเสือใต้อย่างแน่นอน
4) ปาโก้นำทัพเทพเลทเกม
ลองอ่านสถิติเหล่านี้กันดูก่อน ในฤดูกาลนี้ดอร์ทมุนด์สามารถทำประตูในช่วง 15 นาทีสุดท้ายได้ถึง 24 ประตู แถมยังมี 8 ประตูที่ยิงได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ที่น่าสนใจคือ 12 ประตูจากทั้งหมดนี้มาจากหัวและเท้าของปาโก้ อัลกาเซร์เพียงคนเดียว ลองจินตนาการถึงเกมนัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ หากลูก้า โยวิช เกิดท็อปฟอร์มยิงถล่มบาเยิร์นจนพาแฟรงค์เฟิร์ตคว้าชัยสำเร็จ แล้วดอร์ทมุนด์มาต้องการประตูในช่วงท้ายเกมที่พบกลัดบัค คงเป็นอะไรที่น่าลุ้นและมันส์สุดๆ ไปเลยในการจับตาเชียร์ปาโก้ อัลกาเซร์ให้สร้างปาฏิหาริย์สุดท้ายของซีซั่นนี้
5) ฤดูกาลยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพใครทั้งนั้น
ดอร์ทมุนด์เคยทำได้มาแล้วครั้งหนึ่ง ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2001/02 พวกเขาตามหลังจ่าฝูง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน อยู่ถึง 5 คะแนนในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 3 นัด
ซึ่งเทพเจ้าแห่งโชคชะตาก็เข้าข้างทีมเสือเหลือง เมื่อทีมห้างขายยาพลาดท่าแพ้ให้กับเนือร์นแบร์กและเบรเมน ส่วนดอร์ทมุนด์ปราบโคโลญจน์และฮัมบวร์กได้สำเร็จทำให้พวกเขากลับมานำ 1 แต้ม แม้เลเวอร์คูเซนจะเอาชนะได้ในเกมสุดท้าย แต่เสือเหลืองก็เป็นฝ่ายคว้าถาดแชมป์ฤดูกาลนั้นไปครองเมื่อเอาชนะเบรเมนได้ เหตุการณ์นี้น่าจะตอกย้ำให้ทุกทีมที่ทำแต้มนำอยู่ในโค้งสุดท้ายบนตารางลีกได้ดีว่าอย่าวางใจหากดอร์ทมุนด์ยังหายใจรดต้นคออยู่…
