เดิมทีแฟนบอลบางคนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็แสดงความไม่พอใจตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่ทีมรักของพวกเขาปล่อย คริส สมอลลิ่ง กองหลังชาวอังกฤษไปเล่นกับ อาแอส โรม่า ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่นนี้อยู่แล้ว เพราะถึงแม้จะได้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มาร่วมทัพ แต่พวกเขาก็ยังมองว่า สมอลลิ่ง น่าจะพอช่วยทีมได้มากกว่าตัวเลือกที่เหลือรายอื่นๆ
ทั้งนี้ สมอลลิ่ง แสดงให้เห็นว่าถึงแม้เขาจะไม่ใช่กองหลังระดับโลก แต่เขาก็ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์เหมือนที่หลายคนคิด หลังจากทำผลงานได้โดดเด่นกับ โรม่า จนกลายเป็นกำลังหลักของทีมไปแล้ว โดยนัดล่าสุดที่ทีมชนะ เบรสชา 3-0 เขามีส่วนร่วมทั้ง 3 ประตูที่ทีมทำได้ ประกอบด้วยการทำเอง 1 ลูก และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้อีก 2 หน
ในทางกลับกัน ฟิล โจนส์ หนึ่งในกองหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด กลับเล่นได้เลวร้ายสุดๆ จนมีส่วนทำให้ต้นสังกัดได้เพียงเสมอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-3 โดยผลงานดังกล่าวทำให้หลายคนเปรียบเทียบเลยว่า สมอลลิ่ง เหนือกว่า โจนส์ บานเบอะ แต่ที่จริงแล้ว สมอลลิ่ง ไม่ได้เก่งกว่าแค่กับ โจนส์ เท่านั้น แต่เขายังเล่นได้ดีกว่า แม็กไกวร์ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ 2 เซนเตอร์แบ็กตัวจริงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในหลายด้านด้วย
– การสกัดและตัดบอล
แม็กไกวร์ ได้ลงเล่นในลีกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดกาลนี้ไปครบทั้ง 13 นัด และมีค่าเฉลี่ยการเข้าสกัดโดนบอล 0.6 หนต่อเกม ส่วนของ ลินเดอเลิฟ ที่ลงเล่นน้อยกว่า 1 เกม อยู่ที่ 0.8 ครั้งต่อ 1 นัด ซึ่งมันถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง
อย่างไรก็ตาม ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับ สมอลลิ่ง แล้วก็ถือว่าคนละเรื่อง หลังจากที่ สมอลลิ่ง มีค่าเฉลี่ยการสกัดโดนบอลในลีกเกมละ 1.2 ครั้งต่อเกม จากการลงเล่นในลีก 9 นัด และก็มีส่วนทำให้ โรม่า เก็บคลีนชีทในลีกประจำซีซั่นนี้ไปแล้ว 4 หน
นอกจากนี้ สมอลลิ่ง ยังสามารถตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งเข้าสกัดได้ถึง 1.9 หนต่อเกมด้วย เหนือกว่าแม้กระทั่ง แม็กไกวร์ ที่ทำไป 1.5 หนต่อนัด ส่วนของ ลินเดอเลิฟ ต่างกันราวฟ้ากับเหว หลังจากดาวเตะชาวสวีดิชตัดบอลได้เฉลี่ยเพียง 0.8 หนต่อเกม
– การเคลียร์และการบล็อก
ตลอดช่วงการลงเล่นในลีก 9 นัด สมอลลิ่ง เคลียร์บอลให้พ้นจากพื้นที่อันตรายของ โรม่า ได้เฉลี่ยแล้ว 4.2 ครั้งต่อเกม จนทำให้เกมรับของ โรม่า เหนียวแน่นในระดับหนึ่ง โดย แม็กไกวร์ ทำผลงานในด้านนี้ไปได้ 3.9 ครั้งต่อนัด ขณะที่ ลินเดอเลิฟ ทำได้ 3.7 ครั้งต่อเกม แย่กว่าอีก 2 คน
ขณะที่ในด้านการบล็อก แม็กไกวร์ ทำไปเฉลี่ยแล้ว 0.5 ครั้งต่อเกม โดยที่ ลินเดอเลิฟ ตามมาติดๆ ที่ 0.4 หนต่อนัด แต่ด้านนี้ทั้งคู่ก็สู้ สมอลลิ่ง ไม่ได้เลย หลังจากที่อดีตแข้ง ฟูแล่ม ช่วยบล็อกลูกยิงได้เฉลี่ย 1.1 หนต่อเกม
– การผ่านบอล
สมอลลิ่ง มีจังหวะผ่านบอลที่ถือว่าเป็นจังหวะสำคัญ 0.3 หนต่อเกม ซึ่งในจุดนี้เขาเฉือน ลินเดอเลิฟ ไปนิดหน่อย เพราะอีกฝ่ายทำได้ 0.2 หนต่อเกม แต่มันก็ยังด้อยกว่า แม็กไกวร์ ที่ทำได้ 0.8 ครั้งต่อนัดเยอะพอตัว
อย่างไรก็ตาม ถ้าวัดเฉพาะเปอร์เซ็นต์ความแม่นยำในการผ่านบอลแล้วนั้น สมอลลิ่ง ก็ทำได้ดีกว่าทั้งคู่ หลังจากที่เขาผ่านบอลเข้าเป้า 91 เปอร์เซ็นต์ ส่วน แม็กไกวร์ กับ ลินเดอเลิฟ ทำได้ 86.2 เปอร์เซ็นต์ กับ 85.3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ