สาเหตุยิงโหด!โรเบิร์ตสันชี้มาเน่พัฒนาความนิ่งจบสกอร์

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้าย ลิเวอร์พูล ระบุ สาเหตุที่ ซาดิโอ มาเน่ ปีกเพื่อนร่วมทีมยิงได้เป็นกอบเป็นกำอย่างในทุกวันนี้เป็นเพราะเขาพัฒนาความนิ่งในการจบสกอร์ได้ดี พร้อมชี้ 3 แนวรุกของทีมต่างก็เก่งกันทั้งหมด

    แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าสิ่งที่ ซาดิโอ มาเน่ ปีกชาวเซเนกัลพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมากจนทำให้ยิงประตูได้เยอะเหมือนในทุกวันนี้คือความนิ่งในการจบสกอร์

มาเน่ ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2016 ซึ่งในฤดูกาลแรกกับทีมเขายิงได้เพียง 13 ลูก จากการลงเล่น 29 นัดในทุกรายการเท่านั้น แต่ในฤดูกาล 2017-18 กับ 2018-19 เขายิงไป 20 ลูก กับ 26 ประตู ตามลำดับ ส่วนซีซั่นนี้ก็กดไปแล้ว 12 ลูกจากการลงเล่น 18 นัดในทุกรายการ โดยในนัดล่าสุดที่ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ในเกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เขาก็ทำประตูได้ด้วย

โรเบิร์ตสัน เผยว่า “ซาดิโอ เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ที่จริงเขาก็เก่งตั้งแต่ตอนที่ผมเพิ่งเข้ามาอยู่กับทีมใหม่ๆ แล้ว แต่บางทีสมัยก่อนเขาอาจจะไม่นิ่งเวลาอยู่หน้ากรอบประตูเหมือนกับในตอนนี้ ตอนนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอยู่หน้าปากประตู พวกคุณก็คิดกันไปแล้วว่าพวกเขาคงไม่มีทางยิงพลาดแน่ๆ”

    “เราแปลกใจกันด้วยซ้ำที่เขาทำประตูไม่ได้จากโอกาสของเขาในช่วงต้นครึ่งหลัง เขาเป็นนักเตะแบบนั้นนั่นแหละ แล้วหลังจากนั้นจู่ๆ เขาก็โผล่มาทำประตูที่สำคัญอีก 1 ลูกได้ มันเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา ก็หวังว่าเขาจะยังเล่นได้แบบนี้ไปตลอดทั้งฤดูกาล ไม่ใช่แค่เฉพาะในปีนี้ (หมายถึงปี 2019) เท่านั้นน่ะนะ เขายกระดับเกมการเล่นของตัวเองขึ้นไปอีก 1 ระดับได้แล้ว สำหรับผมแล้ว ซาดิโอ เป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของโลก ในที่สุดตอนนี้ทุกคนก็ให้เครดิตเขามากกว่าเดิมสักที และเขาก็คู่ควรกับมันแล้ว”

    ดาวเตะชาวสกอตต์เสริมว่าแดนหน้าของทีมทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ต่างก็เก่งกันทั้งนั้น “ตอนนี้แผงหน้าทั้ง 3 คนของเราถูกพูดถึงเยอะมาก จริงอยู่ว่า บ็อบบี้ ไม่ได้ยิงประตูได้เยอะเหมือนกับอีก 2 คน แต่ความขยันของเขามันก็ไม่เป็นรองใครหน้าไหนทั้งนั้น ถ้าเขาไม่ได้เล่นในแบบที่ทำอยู่ในทุกวันนี้แล้วล่ะก็ ซาดิโอ กับ โม ก็คงยิงได้ไม่เยอะเหมือนอย่างทุกวันนี้หรอก”