ลิเวอร์พูลจงระวัง!ทำความรู้จักจังโก้อันตราย “มอนเตร์เรย์”

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ยุโรป เตรียมเปิดฉากในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2019 วันพุธที่ 18 ธันวาคมนี้ โดยได้สิทธิ์ลงฟาดแข้งในรอบรองชนะเลิศเลย ซึ่งจะดวลกับ มอนเตร์เรย์ สโมสรดังจากเม็กซิโก ที่มีดีกรีเป็นแชมป์โซนคอนคาเคฟ แม้ชื่อชั้นของ ลิเวอร์พูล ดูเหนือกว่ามาก แต่การแข่งขันระดับนี้ไม่มีที่ว่างให้กับคำว่า “ประมาท” และก่อนที่จะไปลุ้นกัน เราไปทำความรู้จักกับ มอนเตร์เรย์ กันหน่อยดีกว่า

  – จุดกำเนิด
    มอนเตร์เรย์ มีชื่อเต็มว่า “กลุบ เด ฟุตบอล มอนเตร์เรย์” (Club de F?tbol Monterrey) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1945 (อายุ 74 ปี) ซึ่งถือเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดจากโซนตอนเหนือของประเทศเม็กซิโก

– ฉายา
    สโมสรแห่งนี้มีฉายาหรือนิกเนมถึง 3 ชื่อ ประกอบไปด้วย “รายาดอส” ซึ่งสื่อถึงเสื้อแข่งลายแทบสีกรมท่า (น้ำเงิน) อันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา, “ลา ปานดีย่า” แปลว่า พรรคพวก หรือ แก๊งค์ และ “ลอส อัลเบียซูเลส” ซึ่งหมายความว่า สีขาว-น้ำเงิน

    – รังเหย้า
    สนามเหย้าของ มอนเตร์เรย์ มีชื่อว่า เอสตาดิโอ เบเบอูเบอา (Estadio BBVA) ซึ่งมีความจุมากถึง 53,500 ที่นั่ง โดยก่อสร้างเสร็จสิ้นเมื่อปี 2015 และเคยจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินนักร้องชื่อดังอย่าง จัสติน บีเบอร์ (เพอร์โพส เวิลด์ ทัวร์ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2017) มาแล้ว

– ความสำเร็จในประเทศ
    พวกเขาคว้าแชมป์ลีก (ลีกา เอ็มเอ็กซ์) 4 สมัย แต่ก็ยังคงเป็นรอง อเมริกา (13), กัวดาลาฮาร่า (12), โตลูก้า (10), ครูซ อาซูล (8), ปูมาส (7), เลออน (7), ติเกรส (7), ซานโตส ลากูน่า (6) และ ปาชูก้า (6) นอกจากนี้พวกเขายังคว้าแชมป์บอลถ้วย (โกปา เอ็มเอ็กซ์) อีก 2 สมัยด้วย

    – ความสำเร็จระดับนานาชาติ
    มอนเตร์เรย์ ซิวแชมป์ คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย (ปี 2011, 2012, 2013 และ 2019) ซึ่งถือว่ามากสุดอันดับสี่ในประวัติศาสตร์รายการนี้ ต่อจากสามสโมสรเพื่อนร่วมชาติอย่าง อเมริกา (7), ครูซ อาซูล (6) และ ปาชูก้า (5)  

-คู่ปรับสำคัญ
    ติเกรส คือทีมคู่อริของ มอนเตร์เรย์ ซึ่งการเจอกันของทั้งสองทีมถือเป็นเกมดาร์บี้แมตช์ที่ใช้ชื่อว่า “กลาซิโก เรคิโอมอนตาโน่” โดยฟาดแข้งกันมาแล้วทั้งสิ้น 122 เกม เป็น ติเกรส ที่มีสถิติดีกว่า เพราะชนะ 42 ครั้ง ส่วน มอนเตร์เรย์ ได้เฮ 40 หน (เสมอกัน 38 ครั้ง)

    – กุนซือ
    เฮดโค้ชคนปัจจุบันของ มอนเตร์เรย์ คือ อันโตนิโอ โมฮาเหม็ด วัย 49 ปี ซึ่งอดีตเคยเป็นกองหน้าระดับทีมชาติอาร์เจนตินา (ลงเล่น 4 นัด ทำได้ 1 ประตู) ส่วนเส้นทางสายกุนซือนั้น เจ้าตัวผ่านการคุมทีมมาเยอะมากตั้งแต่ปี 2003 และเคยมาลุยลีกยุโรปช่วงสั้นๆ ด้วยการเป็นกุนซือ เซลต้า บีโก้ ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง พฤศจิกายน ปี 2018 นอกจากนี้เขายังเคยคุม มอนเตร์เรย์ มาแล้วรอบหนึ่ง (16 กุมภาพันธ์ 2015 – 7 พฤษภาคม 2018) ด้วย

– 3 สตาร์ดังที่อาจคุ้นหู
    แน่นอนว่า มอนเตร์เรย์ เป็นสโมสรดังในลีกแดนจังโก้ ซึ่งคนไทยอาจจะไม่รู้จักมากนัก แต่ทีมชุดปัจจุบันของพวกเขามีนักเตะดาวดังสามราย ที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี คนแรกคือ มิเกล ลายุน ฟูลแบ็ก / ปีกจอมเก๋าทีมชาติเม็กซิโก ที่เคยมาค้าแข้งในยุโรปกับ อตาลันต้า, วัตฟอร์ด, ปอร์โต้, เซบีย่า และล่าสุดกับ บียาร์เรอัล

    อีกรายคือ มักซิมิเลียโน่ เมซ่า กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งหลายๆ คนน่าจะรู้จักมาจากศึก เวิลด์ คัพ 2018 โดย ดาวเตะวัย 26 ปี เพิ่งย้ายมาจาก อินดีเปนเดียนเต้ ภายในปีนี้เอง ส่วนรายสุดท้าย คอบอล พรีเมียร์ลีก คงจะจำได้ ซึ่งนั่นก็คือ วินเซนต์ ยานส์เซ่น หัวหอกชาวดัตช์ ที่เคยมาตกอับกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ลงเล่น 42 นัด ทำได้แค่ 6 ประตู) โดยเขาเปิดฉากฝันร้ายในสีเสื้อ “ไก่เดือยทอง” และเซ็นสัญญาย้ายมาร่วมก๊วน มอนเตร์เรย์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 320 ล้านบาท)

– เคยเจอกับสโมสรอังกฤษมาแล้ว
    ลิเวอร์พูล ไม่ใช่รายแรก เพราะก่อนหน้านี้ มอนเตร์เรย์ เคยฟาดแข้งกับสโมสรอังกฤษอย่าง เชลซี มาแล้ว ในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นการเจอกันในรอบรองชนะเลิศเหมือนกัน โดยเกมดังกล่าว มอนเตร์เรย์ พ่าย “สิงห์บลูส์” ไปด้วยสกอร์ 1-3 (จากนั้น เชลซี เข้ารอบชิงฯ แพ้ โครินเธียนส์ 0-1)