มูรินโญ่ชี้ยอดกุนซือมันวัดกันตรงไหน

โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ สเปอร์ส ระบุ คนใหญ่คนโตของทีมฟุตบอลสมัยนี้ชอบสนใจคนที่พาทีมแพ้น้อยมากกว่าคนที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น คาร์โล อันเชลอตติ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ถูกมองว่าฝีมือตกลงเพราะพาทีมแพ้เยอะ

    โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรชั้นนำแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าสมัยนี้เหล่าผู้บริหารของสโมสรฟุตบอลมักจะมองว่าคนที่พาทีมแพ้น้อยเป็นกุนซือชั้นยอด โดยที่ไม่สนว่าคนเหล่านั้นจะมีสถิติชนะกี่เกม หรือทำทีมได้ดีเท่าไหร่

ช่วงปลายปี 2019 มีหลายทีมที่ทำการเปลี่ยนแปลงกุนซือ อย่างเช่น สเปอร์ส ที่เอา มูรินโญ่ มาคุมทีมแทน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ มิเคล อาร์เตต้า ที่ได้กุมบังเหียน อาร์เซน่อล เป็นต้น ซึ่งรายของ อาร์เตต้า มีกูรูบางคนมองว่ามันเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงพอตัวของบอร์ดบริาร “ไอ้ปืนใหญ่” เมื่อพิจารณาถึงการที่อดีตดาวเตะชาวสแปนิชยังไม่เคยคุมทีมไหนมาก่อนเลย

 

    มูรินโญ่ เผยว่า “สิ่งเดียวที่ผมรู้ และถือเป็นเรื่องที่น่าขำนิดๆ นั่นก็คือถ้าเป็นเมื่อหลายปีก่อนน่ะบรรดาคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้จัดการทีมชั้นยอดคือคนที่พาทีมชนะมากกว่าแพ้ แต่พอตอนนี้คนที่ถูกมองว่าเป็นผู้จัดการทีมชั้นนำกลับเป็นคนที่พาทีมแพ้น้อยที่สุด (โดยที่ไม่สนว่าจะชนะมากน้อยแค่ไหน)”

    “ยกตัวอย่างเช่น อันเชลอตติ คือคนที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย, ได้แชมป์ลีกทั้งในอิตาลี, ฝรั่งเศส และ อังกฤษ รวมถึงได้แชมป์บอลถ้วยในหลายๆ ประเทศ แต่ อันเชลอตติ แพ้สักเท่าไหร่นะ ประมาณ 200 เกมใช่ไหม ? ส่วนผมแพ้ไป 150-180 เกม แต่มันก็เป็นเพราะ คาร์โล แก่กว่าผมนิดหน่อย”

    “ผมคิดว่าทุกวันนี้สิ่งที่สำคัญมันไม่ใช่ว่าคุณชนะกี่นัด แต่เป็นเรื่องที่ว่าคุณไม่แพ้กี่เกม ดังนั้นบรรดาผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดในตอนนี้ก็คือคนที่ไม่แพ้ใครเลย สาเหตุเดียวที่พอจะทำให้ผมเข้าใจได้ว่าทำไมเป็นอย่างนั้นก็เพราะบรรดาผู้บริหารคงดูเรื่องประวัติ และเจอทั้งกุนซือที่พาทีมแพ้เยอะ กับคนที่พาทีมแพ้น้อย ดังนั้นพวกที่พาทีมแพ้น้อยก็เลยได้งาน ผมหาเหตุผลอื่นไม่ได้อีกแล้วล่ะ”