ทางการ! แมนยู แถลง เซอร์ แรตคลิฟฟ์ ถือครองหุ้นสโมสร 25%

แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมดังของ พรีเมียร์ลีก ร่อนหนังสือแถลงยืนยัน เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีคนดังเข้าถือครองหุ้น 25% ของสโมสรอย่างเป็นทางการแล้วหลังมีข่าวแพร่สะพัดออกไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

ตามที่สื่อเมืองผู้ดีรายงานว่า เซอร์ แรตคลิฟฟ์ ได้รับอนุมัติจากทั้ง เอฟเอ และ พรีเมียร์ลีก ให้ถือครองหุ้น 25% ของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างเป็นทางการแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อ 20 ก.พ. แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศยืนยันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นที่แน่นอนแล้ว

ต่อกรณีดังกล่าว เดลี่ สตาร์ ระบุว่าการซื้อหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้นักธุรกิจวัย 71 ปีควักกระเป๋าแค่ 1 พันล้านปอนด์ (ราว 45,000 ล้านบาท) เท่านั้นซึ่งน้อยกว่าที่สื่อเคยรายงานเขาจะต้องใช้เงิน 1.4 พันล้านปอนด์ (ราว 63,000 ล้านบาท) หากแต่เขาจะมอบเงินอีก 237 ล้านปอนด์ (ราว 10,665 ล้านบาท) ให้สโมสรนำไปใช้จ่ายในการปรับปรุงเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ

หลังได้ครอบครองหุ้นของทีมรักสมใจ เซอร์ แรคตลิฟฟ์ ได้แถลงว่า “การได้เป็นเจ้าของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด นับเป็นเกียรติอย่างสูง และมันมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ มันหมายถึงการเปลี่ยนผ่านที่สมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นการเดินทางของเราเท่านั้นที่จะพา แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปเป็นเจ้าแห่งฟุตบอลอังกฤษ ,ยุโรป และโลกโดยที่แฟนบอลของเราจะได้สัมผัสกับเครื่องใช้ไม้สอยระดับโลก และการทำงานเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จของเราจะเริ่มต้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป”

ทั้งนี้ เซอร์ แรตคลิฟฟ์ ตกเป็นข่าวติดต่อขอซื้อหุ้น แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ช่วงก่อนคริสต์มาสแล้ว และถึงขณะนี้เขาแต่งตั้ง เซอร์ เดฟ เบรลส์ฟอร์ด และ ฌอง โคล้ด บลองก์ เข้ามาเป็นสองสมาชิกบอร์ดเช่นกัน อีกทั้งจะได้ โอมาร์ เบร์ราด้า จากทีม แมนฯ ซิตี้ มาสวมบทซีอีโอคนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ด้ว

นอกจากนี้ เซอร์ แรตคลิฟฟ์ เล็งดึง แดน แอชเวิร์ด ผู้อำนวยการกีฬาของ นิวคาสเซิ่ล มาร่วมงานอีกรายโดยล่าสุดเขาขออำลาทีม สาลิกาดง ซึ่งใช้วิธีจ่ายเงินเดือนโดยไม่ต้องทำงานเพื่อป้องกันการย้ายไปรับงานกับทีมคู่แข่งซึ่งน่าจะทำให้ ผีแดง ต้องจ่ายค่าชดเชยก้อนโต ขณะที่ เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฟุตบอลของ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เคยร่วมงานกับ เบร์ราด้า ในทีม เรือใบสีฟ้า เป็นอีกเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด

ขณะเดียวกัน เซอร์ แรตคลิฟฟ์ มีแผนเกี่ยวกับสนามฟุตบอลด้วย เพียงแต่ยังคิดไม่ตกว่าจะใช้วิธีปรับปรุง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้ทันสมัยกว่าที่เป็นอยู่หรือว่าจะสร้างสนามใหม่ในทำเลเดิมที่สโมสรมีพื้นที่พร้อมอยู่แล้ว