แมนยู พบ ลิเวอร์พูล ดูบอลสด ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 17 มี.ค. 67

17 มีนาคม 67 ถ่ายทอดสด ศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใคร ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2023/24 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง แมนยู VS ลิเวอร์พูล ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เจ้าบ้านของทัพปีศาจแดง เวลา 22:30 น. ตามเวลาประเทศไทย พร้อมถ่ายทอดสดทาง beIN SPORTS 3

ดูบอลสด เอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล พบ แมนซิตี้ ลิงก์ดูออนไลน์

ศึกแห่งศักดิ์ศรีที่มีเส้นทางสู่ถ้วยรางวัลและเกียรติยศเป็นเดิมพัน คู่อริตลอดกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเปิดโรงละครแห่งความฝันรับการมาเยืนอของเครื่องจักรสีแดง ลิเวอร์พูล แฟนบอลเตรียมพบกับความดราม่า การถล่มประตูไปพร้อมๆกัน

ผลบอลสด แมนยู VS ลิเวอร์พูล ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ENGLAND: FA CUP		QUARTER-FINALS
	2024-03-17 22:30 – Not Started
Manchester United		Liverpool
Old Trafford Manchester
J. Brooks

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ส่วนทางด้านทีมเจ้าถิ่นของกุนซือ เอริค เทน ฮาก จะไม่สามารถใช้งาน ไทเรลล์ มาลาเซีย, เมสัน เมาท์, อองโตนี มาร์กซิยาล, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บทั้งหมด รวมไปถึงต้องเช็กความฟิตของ ราสมุส ฮอยลุนด์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ อารอน วาน-บิสซากา อีกครั้ง

คาดว่าเกมนี้จะมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูของ อังเดร โอนาน่า พร้อมกองหลัง 4 คน ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, จอนนี่ อีแวนส์ , วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ แดนกลางเป็น ค็อบบี ไมนู, คาเซมิโร่ แนวรุกฝากความหวังไว้กับบรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ลิเวอร์พูล

ส่วนทางด้านทีมเยือนของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะยังไม่สามารถใช้งาน สเตฟาน ไบจ์เซติช, โจเอล มาติป, เบน โด๊ค, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลีซง เบคเกอร์, ดิโอโก้ โจต้า, เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, บ็อบบี คลาร์ก ที่มีอาการบาดเจ็บ และต้องเช็คสภาพร่างกายของ อิบราฮิม่า โกนาเต้ อีกครั้ง

คาดว่าเกมนี้จะมาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูของ ควีวีน เคลเลเฮอร์ พร้อมกองหลัง 4 คน คอเนอร์ แบรดลีย์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แดนกลางเป็น วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล แนวรุกฝากความหวังไว้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยซ์ ดิอาซ

สถิติการเจอกันก่อนหน้าของ แมนยู – ลิเวอร์พูล

ในสถิติทั้งสิ้น 184 นัด ปีศาจแดงยังมีสถิติที่เหนือกว่าเล็กน้อย ชนะอยู่ที่ 70 นัด คิดเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ ส่วนลิเวอร์พูลชนะ 62 นัด และเสมอกัน52 นัด

 

เมื่อแยกลึกลงไปที่สถิติในศึกพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว พวกเขาเจอกันไปทั้งหมด 177 นัด แมนยูชนะถึง 67 นัด ส่วนลิเวอร์พูลชนะอยู่ที่ 59 นัด และเสมอกันอีก 51 นัด

สถิติ 5 ครั้งหลังสุด

• 17/12/2023 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนยู (พรีเมียร์ลีก)
• 05/03/2023 ลิเวอร์พูล 7-0 แมนยู (พรีเมียร์ลีก)
• 23/08/2022 แมนยู 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
• 20/04/2022 ลิเวอร์พูล 4-0 แมนยู (พรีเมียร์ลีก)
• 24/10/2021 แมนยู 0-5 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

• 09/03/2024 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
• 03/03/2024 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
• 28/02/2024 ชนะ ฟอเรสต์ 1-0 (เอฟเอ คัพ)
• 24/02/2024 แพ้ ฟูแลม 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
• 18/02/2024 ชนะ ลูตัน ทาวน์ 2-1 (พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล

• 14/03/2024 ชนะ สปาร์ต้า ปราก 6-1 (ยูโรป้า ลีก)
• 10/03/2024 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
• 07/03/2024 ชนะ สปาร์ต้า ปราก 5-1 (ยูโรป้า ลีก)
• 02/03/2024 ชนะ ฟอเรสต์ 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
• 28/02/2024 ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-0 (เอฟเอ คัพ)

แมนยู (4-2-3-1) : อังเดร โอนาน่า – ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, จอนนี่ อีแวนส์ , วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ – ค็อบบี ไมนู, คาเซมิโร่ – บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ – มาร์คัส แรชฟอร์ด

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์ – คอเนอร์ แบรดลีย์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยซ์ ดิอาซ