เพียงแค่ 3 คนที่มีการบันทึกไว้ว่าแฟนบอล เรอัล มาดริด ลุกขึ้นยืนปรบมือให้ในการทำศึกเอล กลาซิโก้..
ดีเอโก้ มาราโดน่า ปี 1983
โรนัลดินโญ่ ปี 2005
และ อันเดรส อิเนียสต้า เมื่อปี 2015
ในเกมเมื่อเดือนธันวาคมฤดูกาล 2015/16 บาร์มีนักเตะบาร์เซโลน่าแค่ 3 คนเท่านั้น..เซโลน่าของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ยกพลไปถล่ม เรอัล มาดริด 4-0 อิเนียสต้าควบคุมทุกอย่างไว้แทบเท้า ท่วงท่าลีลายังคงเพริศแพร้วอ่อนช้อยแต่หนักแน่นดุดันในตัว เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
อิเนียสต้าจ่ายเหนือชั้นให้เนย์มาร์ทำประตู 2-0 ก่อนจะตะบันเต็มข้อเสียบสามเหลี่ยมให้ทีมหนีเป็น 3-0
แฟนบอลราชันชุดขาวลุกขึ้นปรบมือให้เขาตอนที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 76
เป็นคำชื่นชมที่เหนือกว่าคำชื่นชมอื่นใด เพราะมันมาจากแฟนบอลของคู่ปรับตลอดกาล
โพสต์อินสตราแกรมของ ลิโอเนล เมสซี่ ในวันที่ อิเนียสต้า ประกาศอำลาสนามเมื่อ 8 ตุลาคมที่ผ่านมานั้นสวยงามและบอกถึงความเป็น อันเดรส อิเนียสต้า อย่างยิ่ง..
“ลูกฟุตบอลคงคิดถึงคุณ”
ไม่เพียงแค่พวกเราเท่านั้นที่จะคิดถึงคุณ แม้กระทั้งลูกฟุตบอลก็คงจะคิดถึงคุณ คิดถึงสัมผัสของคุณ คิดถึงความนุ่มนวลของคุณ
คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนักสำหรับชีวิตหลังแขวนสตั๊ดของอิเนียสต้า เขามีธุรกิจไวน์ของครอบครัวที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
สัญญาฉบับใหม่จากบาร์เซโลน่าที่เป็นรางวัลตอบแทนผลงานพาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์โลกทำให้อิเนียสต้ามีรายได้มหาศาล เขานำมันมาลงทุนในธุรกิจไวน์ของครอบครัว พัฒนาวัตถุดิบ เทคโนโลยี บุคลากร และเรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็น
จากธุรกิจท้องถิ่นสู่ตลาดโลก ทุกวันนี้ไวน์ Bodega Andres Iniesta ผลิตออกวางจำหน่ายปีละกว่าหนึ่งล้านขวด ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกถึงร้อยละ 60 อัตราส่วนมากกว่าขายในประเทศสเปนเสียอีก
“Minuto 116” คือหนึ่งในเรือธงของไวน์ Bodega Andres Iniesta
แปล Minuto 116 แบบตรง ๆ ตัวก็คือ “นาทีที่ 116”
ถ้าจะหาไวน์สักตัวที่บอกความทรงจำที่ทุกคนมีต่อ อันเดรส อิเนียสต้า ได้ดีที่สุด จะมีชื่อไหนเหมาะไปกว่านาทีที่เขาวอลเล่ย์ประตูชัยพาสเปนเป็นแชมป์โลกสมัยแรกในประวัติศาสตร์อีกเล่า
ผมโชคดีมากเกินพอที่ได้อยู่ใน Minuto 116 วันนั้นด้วย..
อยู่ในสนามซอคเกอร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม แห่งนครโจฮันเนสเบิร์ก ท่ามกลางแฟนบอล 84,490 คน ลูกวอลเล่ย์สู่แชมป์โลกของเขายังอยู่ในความทรงจำ ไม่ลืมความรู้สึกนั้นมาจนถึงวันนี้
บัลลงดอร์ปีนั้นตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ด้วยระบบการให้คะแนนที่ผิดเพี้ยนจากการควบรวมกับฟีฟ่า มันควรเป็นของ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ทริปเปิลแชมป์แห่งอินเตอร์ มิลาน และพาทีมชาติฮอลแลนด์ไปถึงรองแชมป์โลก (คะแนนในหมวดนักข่าวให้ สไนเดอร์ เป็นอันดับหนึ่ง แต่แพ้คะแนนรวมหลังบวกส่วนของโค้ชทีมชาติและกัปตันทีมชาติเข้าไปด้วย)
สำหรับผมแล้ว สไนเดอร์ ย่อมคู่ควร แต่ผมยังคงคิดเหมือนกับวันนั้นและเวลานั้น ผมยกให้ อิเนียสต้า เป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2010 โดยที่ สไนเดอร์ เป็นอันดับสอง
เรื่องราวมากมายของ อันเดรส อิเนียสต้า อยู่ในการจดจำร่วมสมัยของพวกเรา..
ความสำเร็จกับบาร์เซโลน่า ความยิ่งใหญ่กับทีมชาติสเปน ฝีเท้า ความสามารถเฉพาะตัว ความเข้าใจเกม การประสานงานกับ ชาบี เอร์นานเดซ และ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของฟุตบอลติกิตาก้าที่ครองโลก
การควบคุมลูกบอลอย่างมหัศจรรย์ ทักษะอันเอกอุ เทคนิคที่เหนือล้ำ ความแพรวพราวที่หาตัวจับยาก บอลที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
สเต็ปเท้าว่องไว การพาบอลทะลวงแหวกฝูงคน ลูกจ่ายสวย ๆ แอสซิสต์งาม ๆ ลูกยิงคม ๆ โมเมนต์สำคัญครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามีส่วนร่วม
และหนึ่งในเรื่องเล่าสุดคลาสสิก.. คำพูดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กัปตันทีมบาร์เซโลน่าที่มีต่อ ชาบี เอร์นานเดซ ขณะทั้งคู่กำลังยืนมองเด็กหนุ่มตัวเล็ก ๆ ผิวขาวซีดจากเมืองอัลบาเซเต้ร่ายมนตร์ในช่วงแรก ๆ ที่เพิ่งมาถึง ลา มาเซีย
“แกน่ะจะขึ้นมาแทนชั้น ส่วนไอ้เด็กนั่นจะขึ้นมาแทนพวกเราทุกคน”
แน่นอนครับ การประกาศแขวนสตั๊ดของอิเนียสต้านั้นน่าใจหาย แต่เอาเข้าจริง ๆ เราก็ห่างจากฟุตบอลของเขามาพักใหญ่แล้ว โดยเฉพาะนับจากวันที่ร่ำลาบาร์เซโลน่าไปเล่นในญี่ปุ่นกับ วิสเซล โกเบ เมื่อปี 2018
มันก็ 6 ปีเข้าไปแล้ว..
ความใจหายนั้นจึงไม่ถึงกับรุนแรงมากนัก ยิ่งเมื่อเขาโพสต์ในโซเชียล X ของตัวเองว่า El Juego Continúa – เกมดำเนินต่อไป – มันก็ยิ่งไม่รุนแรงเลย เพราะมันเป็นการบอกกับพวกเราทุกคนว่าเขาจะยังอยู่กับเกมลูกหนังต่อไปเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วง
ผมกำลังรอคอยวันนั้น หลาย ๆ คนก็คงกำลังรอคอยวันนั้นอยู่เช่นกัน.. วันที่เขาจะกลับมาอยู่ใกล้กับพวกเราอีกครั้ง ในสนามฟุตบอล แต่เป็นในบทบาทอื่นที่ไม่ใช่นักฟุตบอล..
————-
คำสดุดีหลั่งไหลจากทั่วสารทิศหลังการประกาศของเขา และหนึ่งใน TRIBUTE ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ล้ำค่าที่สุด มีความหมายที่สุด คงหนีไม่พ้นคำสดุดีจากคู่ปรับตลอดกาลของบาร์เซโลน่า
เรอัล มาดริด ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ยกย่อง ชื่นชม และขอบคุณ อันเดรส อิเนียสต้า
“ประตูอันเป็นที่จดจำของเขาในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้จะประทับอยู่ในความทรงจำของชาวสเปนทุกคน สโมสร เรอัล มาดริด ขออวยพรให้เขาและครอบครัวประสบแต่ความโชคดีในบทบาทใหม่ของชีวิต”
ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของ เรอัล มาดริด บรรยายไว้อย่างนั้น
อันเดรส อิเนียสต้า เหมือนเป็นคนพิเศษ ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นนักเตะของบาร์เซโลน่า แต่กระทั่งแฟนบอลของทีมคู่อริอย่าง เอสปันญ่อล และ เรอัล มาดริด ยังไม่เกลียดเขา ตรงกันข้ามพวกเขาเหล่านั้นจำนวนมากมายยังรักเขา
รักในฝีเท้าของเขา รักในการวางตัวของเขา เขาเป็นเหมือนสมบัติของคนสเปนทุกคน
ภาพสนามคัมป์ นู ที่ถูกแปรอักษรเต็ม 4 ด้านของอัฒจันทร์ในเกมปิดฤดูกาล 2017/18 กับ เรอัล โซเซียดาด คือหนึ่งในวันที่สนามแห่งนี้อบอวลไปด้วยอารมณ์รักและความรู้สึกใคร่ครวญถวิลหา
ลองจินตนาการตามกันดูนะครับ วินาทีที่เดินลงสู่สนาม มองเห็นตัวหนังสือ Infinit Iniesta – อิเนียสต้าไม่มีวันสิ้นสุด – ตลอดแนวอัฒจันทร์ด้านยาว Lateral ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก Tribuna มองไปทางซ้ายฝั่ง Gol Nord และทางขวาฝั่ง Gol Sud มันคือเลข 8 อันเป็นเลขประจำตัวของเขา..
อิเนียสต้าจะรู้สึกอย่างไร สะอึกเหมือนมีก้อนอะไรขึ้นมาจุกที่ลำคอไหม เมื่อเขารู้ดีว่ามันคือวันสุดท้ายที่จะได้ลงสนามในฐานะนักฟุตบอลของบาร์เซโลน่า และทุกคนต้อนรับเขาด้วยความรักความตั้งใจขนาดนั้น
ในอีกความหมายหนึ่ง หากมองเลข 8 ในแนวนอน มันคือเครื่องหมายอินฟินิตี้ – ไม่มีวันสิ้นสุด
ภาพจากมุมสูง Bird eye view ของคัมป์ นูในวันนั้นจึงสวยงามบาดใจ.. Infinit Iniesta อยู่ตรงกลาง และมีเครื่องหมายอินฟินิตี้ขนาบด้านข้าง
“Mr. Andrés, your football will last forever” บาร์เซโลน่าโพสต์ข้อความนี้บนโซเชียลของสโมสร
ใช่.. ฟุตบอลของคุณจะคงอยู่ตลอดไป มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ