เจาะลึกเติร์กเมนิสถาน คู่แข่งทีมชาติไทย 10 มิ.ย. : ขุนพลทะเลทรายคาราคุมที่ไม่ธรรมดา

ถ่ายทอดสด: ไทยรัฐ ทีวี (ช่อง 32) และ BG SPORTS (Youtube)

[ 1 ] ความสำเร็จในอดีต

ด้วยความที่เติร์กเมนิสถาน เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ในฐานะสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต-เติร์กเมน ทำให้กว่าที่พวกเขาจะมีส่วนร่วมกับกีฬานานาชาติก็ต้องรอปี 1992 เลยทีเดียว (ได้รับเอกราชปี 1991)

เหตุนี้เอง ทำให้พวกเขาแทบไม่ได้เข้าไปแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ของเอเชีย โดยมีเพียง เอเชียน คัพ 2004 และ 2019 เท่านั้นที่ทัพนักรบแห่งทะเลทรายคาราคุม ฝ่าฟันถึง แต่ก็ตกรอบแรกทั้งสองครั้ง

อย่างไรก็ตาม กับรายการ เอเอฟซี ชาลเลนจ์ คัพ (ศึกชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียกลาง) เติร์กเมนิสถาน เคยได้รองแชมป์ 2 หน ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของพวกเขานั่นเอง

[ 2 ] ผลงานในปี 2025

เติร์กเมนิสถาน ประเดิม เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่ม D ได้อย่างสวยงาม กับการบุกไปเฉือนไต้หวัน ซึ่งอุดมไปด้วยนักเตะโอนสัญชาติ ด้วยสกอร์ 2-1

หากย้อนหลังกลับไปช่วงปลายปี 2024 ผลงานของพวกเขาก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เนื่องจากเสมอกับฮ่องกง และบุกไปแพ้อุซเบกิสถาน หนึ่งในตัวแทนจากเอเชีย ที่ได้ไป เวิลด์ คัพ 2026 แน่นอนแล้ว 1-3

จากฟอร์มในระยะหลัง แม้ว่าเติร์กเมนิสถาน จะเป็นทีมที่แรงกิ้งอยู่โซนล่างของทวีป แต่กระนั้นพัฒนาการของขุนพลนักรบแห่งทะเลทรายคาราคุม กำลังไปได้สวย จึงไม่อาจประมาทได้เลย

[ 3 ] เฮดโค้ช

ก่อนหน้านี้เติร์กเมนิสถาน มี เมอร์เกน โอราซอฟ เป็นเฮดโค้ช แต่พี่แกดันขอลาออกดื้อๆ เพื่อไปรับงานใหม่ที่ลีกลิธัวเนีย ทำให้สมาคมฟุตบอลต้องแต่งตั้ง โรว์เชน เมเรดอฟ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานฝ่ายเทคนิค เป็นกุนซือคนใหม่เมื่อปลายพฤษภาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เทรนเนอร์ป้ายแดงของทัพนักรบแห่งทะเลทรายคาราคุม ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดี เพราะเป็นคนที่ทำทีมแบบเน้นความรัดกุมและมีระเบียบวินัย อีกทั้งยังคลุกคลีกับนักเตะในประเทศมาโดยตลอด

แท็กติกที่ เมเรดอฟ นิยมใช้คือ 4-3-3 กับ 5-3-2 โดยจะให้ความสำคัญกับเกมรับเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้าจะเจาะแผงหลังเติร์กเมนิสถาน เข้าไปได้ คงต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูงทีเดียว

[ 4 ] ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

เติร์กเมนิสถาน ใช้ผู้เล่นในประเทศเป็นหลัก โดยมีนักเตะจาก 3 สโมสรใหญ่อย่าง อาฮาล (10 คน), อัลติน อาเซอร์ (6 คน) และแชมป์ โยการ์รี ลีกา 2024 อย่าง อาร์กาดัก อีก 5 คน 

แนวรับของพวกเขานำโดย เมกาน ซาพาโรฟ เซนเตอร์ฮาล์ฟเจ้าของสัดส่วน 1.94 เมตร และ กือยช์มูรัต อันนากูลิเยฟ คู่หูที่สูงชะลูดไม่แพ้กัน

แดนกลาง ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่เติร์กเมนิสถาน มีนักเตะเก่งกาจหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เตย์มูร์ ชารือเยฟ กับ เวปา จูมายเยฟ สองตัวตัดเกมที่เล่นในลีกเบลารุส, เมย์ลิส ดูร์ดิเยฟ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง รวมไปถึงปีกที่ว่องไวอย่าง มูรัต อันนาเยฟ และ ชานาซาร์ เติร์กกิเชอฟ

น่าเสียดายที่ รุสลาน มินกาซอว์ ห้องเครื่องคนสำคัญอยู่ในช่วงพักฟื้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะมีนักเตะที่เปลี่ยนเกมได้ในชั่วพริบตาเพิ่มอีกหนึ่งราย

ขณะที่แดนบน อัลติมีรัต อันนาดูร์ดีเยฟ หัวหอกกัปตันทีมคือความหวังสูงสุด โดยมี อาร์สลันเมอรัต อามานอฟ, อาร์เซลานมูรัต อามาโนฟ, ดิดาร์ ดูร์ดิเยฟ และ เอลมาน ทาไกเยฟ คอยสนับสนุน

[ 5 ] นักเตะเด่น

อัลติมีรัต อันนาดูร์ดีเยฟ ศูนย์หน้ากัปตันทีมอาจจะทำสกอร์ได้น้อยกว่า อาร์สลันเมอรัต อามานอฟ รุ่นพี่วัย 35 ปี ที่กดให้ทีมชาติไป 14 ประตู แต่เมื่อมองคุณประโยชน์โดยรวม หมอนี่ถือว่าสร้างมิติให้เกมรุกได้หลายหลาก

หัวหอกรายนี้เพิ่งพา อาร์กาดัก ฟาดแชมป์ เอเอฟซี ชาลเลนจ์ คัพ 2024-25 ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ ด้วยการเอาชนะ สวาย เรียง (กัมพูชา) ไป 2-1 โดยที่ตนเองก็เป็นดาวซัลโว (5 ประตู) ประจำทัวร์นาเมนต์ด้วย

นอกจากนี้ อันนาดูร์ดีเยฟ ยังมีสถิติที่ดีกับการเผชิญหน้าทีมจากเอเชีย ฝั่งตะวันออก เนื่องจากพี่แก 4 จาก 9 ประตู ในนามทีมชาติ เขาซัดใส่ไต้หวัน (2), สิงคโปร์ และมาเลเซีย มาแล้ว

[ 6 ] นักเตะน่าจับตามอง

เตย์มูร์ ชารือเยฟ มิดฟิลด์ตัวรับที่เพิ่งย้ายจาก อับดิช-อาตา แชมป์ลีกคีร์กีซสถาน ไปเล่นให้ ตอร์ปิโด-เบลอาซ โฌดิโน สโมสรดังแห่งเบลารุส

หมอนี่ถือเป็นนักเตะที่มีมูลค่ามากที่สุดในทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ชุดปัจจุบัน กับตัวเลข 300,000 ยูโร (ประมาณ 11.2 ล้านบาท)

ชารือเยฟ คือผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง เขาอาจจะไม่หวือหวา แต่ประสิทธิภาพล้นเหลือ โดยเฉพาะการอ่านจังหวะดักบอลที่ทำให้แผงหลังเบางานและอุ่นใจได้เสมอ ดังนั้นถ้าจะเจาะแนวรับทัพนักรบแห่งทะเลทรายคาราคุม ก็ต้องผ่านพี่แกไปก่อนเป็นรายแรก