อาร์เซน่อล แชมป์-แมนยู บ๊วย! จัดอันดับสโมสรพรีเมียร์ลีกใช้เงินเสริมทัพเกินคุ้ม-ติดลบ

แมนยู รั้งบ๊วยตามคาดจากการจัดอันดับทีมลูกหนังของ พรีเมียร์ลีก ที่ทุ่มทุนซื้อนักเตะใหม่ได้ไม่คุ้มค่าเงินเมื่อเทียบผลงาน ขณะที่ อาร์เซน่อล ยืนหนึ่งตามข้อมูลล่าสุดจาก ทรานส์เฟอร์มาร์เกต เมื่อ 27 ส.ค.

แมนฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นสโมสรของ พรีเมียร์ลีก ที่ทุ่มเงินซื้อนักเตะใหม่ด้วยค่าตัวมหาศาลมาโดยตลอด แต่พวกเขากลับคว้าความสำเร็จไม่ได้ซึ่งส่งผลให้ทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด รั้งอันดับบ๊วยของทีมที่ใช้เงินติดลบเกินกว่า 300 ล้านปอนด์ในด้านนี้เมื่อเทียบค่าตัวนักเตะกับมูลค่าในปัจจุบันของแต่ละราย

สำหรับตัวอย่างที่ทำให้ ปีศาจแดง ตกเป็นทีมบ๊วยในข่ายนี้ได้แก่การซื้อนักเตะค่าตัวแพงหลายรายทั้ง กาเซมีโร่ , เจดอน ซานโช่ และ อันโตนี่ ซึ่งต่างก็ไม่อาจพาทีมหวนคืนสู่ความยิ่งใหญ่ดังเดิมได้อย่างที่สโมสรวาดหวัง อีกทั้งแต่ละรายมีฟอร์มที่เลวร้ายเช่นกันในสีเสื้อ เร้ด เดวิลส์

กระทั่งล่าสุด รูเบน อโมริม ลงทุนด้วยเม็ดเงินก้อนโตอีกครั้งด้วยการเซ็นสัญญากับสามตัวรุก มาเตอุส คุนญ่า , ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และ เบนจามิน เซสโก้ จึงทำให้ต้องรอลุ้นกันต่อว่าการควักกระเป๋าด้วยเม็ดเงินมหาศาลงวดล่าสุดในซัมเมอร์นี้จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างผลงานได้ดีหรือไม่หลังจบซีซั่น 2025/26 ซึ่งกุนซือโปรตุกีสยังพาทีมกำชัยไม่ได้ในสองเกมแรก

หลังทุ่มเงินซื้อนักเตะสูงถึง 1.1 พันล้านปอนด์ (ราว 48,400 ล้านบาท) ทรานส์เฟอร์มาร์เกต ระบุว่าขุมกำลังของ ผีแดง ในปัจจุบันมีมูลค่า 769 ล้านปอนด์ (ราว 33,838 ล้านบาท) ซึ่งเท่ากับว่าพวกเขาลงทุนล้มเหลวติดลบ 322.9 ล้านปอนด์ (ราว 14,207 ล้านบาท)

ในทางกลับกัน อาร์เซน่อล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ครองแชมป์ทีมที่ใช้เงินซื้อนักเตะได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดโดยทีม ปืนใหญ่ มีผลกำไรร่วม 300 ล้านปอนด์เช่นกันเมื่อเทียบค่าตัวนักเตะกับมูลค่าในปัจจุบันของแต่ละราย

เว็บไซด์เจ้าดังกล่าวระบุว่าทีมลูกหนังของกรุงลอนดอนใช้เงินช็อปปิ้งนักเตะ 826 ล้านปอนด์ (ราว 36,344 ล้านบาท)  แต่มีมูลค่าทีมในปัจจุบัน 1.1 พันล้านปอนด์ (ราว 48,400 ล้านบาท)  ซึ่งหมายความว่า เดอะ กันเนอร์ส ทำกำไรได้ 315.9 ล้านปอนด์ (ราว 13,899 ล้านบาท)  โดยเฉพาะ วิลเลี่ยม ซาลิบา กับ มาร์ติน โอเดอการ์ด เป็นสองขุนพลที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าที่สโมสรจ่ายค่าตัวซื้อมาร่วมทีม

– เม็ดเงินลงทุนและมูลค่าสโมสรของทีมในพรีเมียร์ลีก