ในขุมกำลังชุดปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีนักเตะทั้งหมด 10 คน ที่จะหมดสัญญากับทีมหลังจบฤดูกาลนี้ ประกอบด้วย ดาบิด เด เคอา, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, ฆวน มาต้า, อันเดร์ เอร์เรร่า, ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, มัตเตโอ ดาร์เมียน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, อันเดรียส เปเรยร่า และ แอชลี่ย์ ยัง
ทั้งนี้ ในกลุ่มดังกล่าวมี 5 คนที่ไม่มีอ็อปชั่นขยายสัญญาอีกต่อไป เรียกได้ว่าถ้าหมดสัญญาแล้วก็จบกัน ซึ่งคนในกลุ่มนั้นได้แก่ มาต้า, เอร์เรร่า, โจนส์, สมอลลิ่ง และ ยัง โดยถ้าเกิดจนถึงเดือนมกราคมนี้แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังตกลงเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับแข้งเหล่านี้ไม่ได้ พวกเขาก็สามารถเจรจาเรื่องย้ายทีมล่วงหน้าแบบไร้ค่าตัวได้ทันที
ที่จริงยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็พยายามเจรจาเรื่องต่อสัญญากับแข้งเหล่านี้มาโดยตลอด ซึ่งวันนี้เราก็จะมาวิเคราะห์กันว่าทั้ง 5 คนนี้เหมาะสมแค่ไหนที่ควรจะได้สวมเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไปในซีซั่นหน้า
– ฟิล โจนส์
ถ้าไม่พูดถึงจุดเด่นเรื่องการเล่นโดยไม่สนสีหน้าของตัวเองว่าจะถูกนำไปล้อแบบไหนแล้วนั้น มันก็ต้องบอกว่าอีกหนึ่งในจุดเด่นของ โจนส์ คือความทุ่มเทที่มีให้กับทีม เขาเป็นคนที่พร้อมวิ่งไล่คู่แข่งจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝังหนึ่ง ถ้าสามารถทำได้ และเบียดสู้กับคู่แข่งได้ดีในระดับหนึ่ง
น่าเศร้าที่ โจนส์ กลับมีจุดอ่อนด้านความเข้าใจเกม มีหลายครั้งที่เขามักจะตัดสินใจได้แย่ จนส่งผลเสียกับทีม ซึ่งถ้าเป็นช่วงที่เขามาอยู่กับทีมใหม่ๆ ยังพอให้อภัยได้ เพราะมันหมายความว่าเขามีเวลาเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง แต่จนถึงตอนนี้ โจนส์ ยังทำแบบนั้นได้ไม่ดีอยู่เลย ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาอาจจะต้องบอกลาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจบฤดูกาลนี้
ความคู่ควรที่จะได้ต่อสัญญา : 35 เปอร์เซ็นต์
– คริส สมอลลิ่ง
จะบอกว่า สมอลลิ่ง เป็นด้านตรงข้ามกับ โจนส์ ก็ว่าได้ อดีตแข้ง ฟูแล่ม แสดงให้เห็นถึงการอ่านเกมที่ดีในระดับหนึ่งสมัยยังเป็นแค่เยาวชน ซึ่งนั่นก็ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมคว้าตัวเขามาร่วมทีมในปี 2010
ตามโปรเจคต์เดิมของ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วนั้น พวกเขาอยากให้ สมอลลิ่ง ได้เป็นคู่หูเซนเตอร์แบ็กร่วมกับ โจนส์ โดยถ้าทั้งคู่พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้ พวกเขาก็จะถือเป็นคู่เซนเตอร์แบ็กในฝัน จากการที่คนหนึ่งเด่นด้านการเข้าสกัดและปะทะกับคู่แข่ง ส่วนอีกคนเก่งด้านการอ่านเกม ถ้าจะพูดอีกแบบหนึ่งก็คือเหมือนสมัยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มี ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ เนมานย่า วิดิช เป็นคู่กองหลังนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ความฝันนั้นไม่เคยเป็นจริง สมอลลิ่ง ก็เหมือนกับ โจนส์ ที่ไม่สามารถพัฒนาฝีเท้าได้ตรงตามที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งความคาดหวังเอาไว้ แต่เขาก็ยังมีดีกว่า โจนส์ นิดหน่อยตรงเรื่องที่พอจะทำประตูได้บ้าง ถึงกระนั้น มันก็ยังไม่ถือว่าดีพอที่จะได้อยู่กับทีมต่อไป
ความคู่ควรที่จะได้ต่อสัญญา : 40 เปอร์เซ็นต์
– อันเดร์ เอร์เรร่า
ผลงานอันโดดเด่นที่ทำได้กับ แอธเลติก บิลเบา ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจดึง เอร์เรร่า มาเสริมแกร่งในปี 2014 ด้วยความหวังว่าจุดเด่นด้านการคุมเกมในแดนกลางของเขาจะช่วยทีมได้ โดยแม้แต่ พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์ของ “ปีศาจแดง” ยังเคยกล่าวชม เอร์เรร่า เลยว่าเป็นการเสริมทัพที่ดีที่สุดของช่วงซัมเมอร์ ปี 2014
หลังจากต้องใช้เวลาปรับตัวกับทีมพักใหญ่ มันก็ดูเหมือนว่า เอร์เรร่า จะทำผลงานได้ตรงตามความคาดหวังนั้น เพราะในฤดูกาล 2016-17 เขาทำผลงานได้โดดเด่นสุดๆ จนช่วยให้ทีมได้ทั้งแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก กับ อีเอฟแอล คัพ ประจำฤดูกาลดังกล่าว รวมถึงได้รับการโหวตจากเหล่า “เร้ด อาร์มี่” ให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทีมในซีซั่นนั้นด้วย
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เอร์เรร่า ก็ไม่เคยโชว์ฟอร์มเหมือนในซีซั่นนั้นได้อีกเลย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาได้ลงเล่นน้อยลง จากการเข้ามาของ ปอล ป็อกบา ด้วย โดยที่จริงเขายังมีดีพอที่จะเล่นให้ทีมอยู่ เพียงแต่ต้องได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น
ความคู่ควรที่จะได้ต่อสัญญา : 45 เปอร์เซ็นต์
– แอชลี่ย์ ยัง
หลายคนคิดว่า ยัง น่าจะหมดอนาคตกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปตั้งนานแล้ว หลังจากที่เคยฟอร์มตกอย่างน่าใจหายในบทบาทปีกซ้าย, โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยๆ รวมถึงยังเคยตกเป็นประเด็นร้อนเรื่องชอบพุ่งล้มบ่อยจนแทบจะถี่กว่าการกินข้าว 3 มื้อ
ถึงกระนั้น ความมุ่งมั่นที่จะอยู่กับทีมต่อไปทำให้ ยัง ยอมหันมาตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาศักยภาพกับการเล่นเป็นแบ็กซ้าย ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งจนทำให้ยังได้อยู่กับทีมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยฤดูกาลที่แล้วเขาก็ได้ลงเล่นไป 39 นัดในทุกรายการ และทำผลงานได้ดีระดับหนึ่งจนมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ ชุดที่เป็นอันดับ 4 ของศึก ฟุตบอลโลก 2018 ด้วย
นอกจากนี้ แข้งวัย 33 ปี ยังเป็นเหมือนคนสร้างบรรยากาศที่ดีให้ทีมได้เช่นกัน แม้ว่าอาจจะยังไม่ถึงขั้นเหมาะกับการเป็นกัปตันทีม แต่เขาก็สามารถทำให้คนในทีมเกิดความสนุกสนานได้ ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากพอตัวเช่นกัน
จริงอยู่ว่า ยัง ไม่ดีพอที่จะพร้อมลงเล่นให้ทีมทุกนัด แต่ถ้าพิจารณาถึงการสร้างบรรยากาศให้ทีม และตอบแทนความภักดีที่เขามีให้ทีมแล้วนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรที่จะให้เขาได้สวมเสื้อสีแดงต่อไป
ความคู่ควรที่จะได้ต่อสัญญา : 55 เปอร์เซ็นต์
– ฆวน มาต้า
หนึ่งใน 3 กองกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันที่มีอายุถึงหลักเลข 3 มาต้า มีประสบการณ์ที่ล้นเหลือ, มีทักษะที่ดี, เล่นลูกนิ่งได้น่าประทับใจ และยังมีความเป็นผู้นำที่ดีในระดับหนึ่งอีกด้วย
คุณสมบัติที่กล่าวมาในเบื้องต้นถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าอดีตแข้ง บาเลนเซีย และ เชลซี สมควรจะได้รับสัญญาฉบับใหม่อย่างมาก ยิ่งในเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงที่ต้องสร้างทีมกันขึ้นมาใหม่ คนแบบ มาต้า ยิ่งเป็นคนที่สำคัญกับทีมสุดๆ
ยิ่งไปกว่านั้น มาต้า ยังเป็นขวัญใจของ “เร้ด อาร์มี่” คนหนึ่งด้วย หลังจากที่เขามักจะสื่อสารกับแฟนบอลบ่อยๆ ดังนั้นถ้าบอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยากจะซื้อใจแฟนบอลในระดับหนึ่งแล้วล่ะก็ การต่อสัญญากับ มาต้า ก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ
ความคู่ควรที่จะได้ต่อสัญญา : 80 เปอร์เซ็นต์
