เฟลไลนี่ฮีโร่! ซัดทดเจ็บพาแมนยูบดยังบอยส์หืด ควงยูเว่ลิ่ว16ทีมชปล.

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทะยานเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ หลังได้ฮีโร่อย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ ที่ซัดในช่วงทดเจ็บ น.90+1 ให้ทีมคว้าชัยเหนือ ยัง บอยส์ แบบหืดจับ 1-0 เก็บสามแต้มมี 10 คะแนน การันตีผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัด 5 เมื่อคืนวันอังคารที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด    

    เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากเก็บสามแต้มได้ และผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน บาเลนเซีย ไม่ชนะเกมเยือน ยูเวนตุส จะส่งให้ “ผีแดง” เข้ารอบน็อคเอาท์ต่อไปทันที

    โชเซ่ มูรินโญ่ ปวดหัวกับปัญหาสภาพทีมที่มีแข้งบาดเจ็บตลอดเวลา โดยเฉพาะแนวรับที่ล่าสุดต้องเสีย วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ทำให้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเกมนี้เลือกใช้ ฟิล โจนส์ และคริส สมอลลิ่ง ส่วนแดนกลาง ปอล ป็อกบา ยังฟิตไม่เต็มร้อยมีแค่ชื่อเป็นสำรองเท่านั้น ด้านสามแนวรุกเป็น เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ขณะที่ โรเมลู ลูกากู มีชื่อบนม้านั่งสำรอง ร่วมกับ ฆวน มาต้า โดยไร้ชื่อของ อเล็กซิส ซานเชซ

    ทางด้านผู้มาเยือน มีแค่แต้มเดียวจากการลงเล่น 4 นัดที่ผ่านมา ความหวังในแนวรุกฝากไว้ที่ ฌอง-ปิแอร์ เอ็นซาเม่ ที่ยืนเป็นหน้าเป้า โดยมีตัวเก๋าริมเส้นอย่าง มิราเล็ม ซูเลจ์มานี่ อดีตแข้งอาแจ็กซ์ และโรเจอร์ แอสซาเล่

   เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาทีแรก “ปีศาจแดง” เกือบชิงขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว บอลจากแดนกลางโดนเท้า ลินการ์ด ทะลุถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปดวลกับ วอน บอลล์มุส ก่อนที่หอกสิงโตคำรามจะชิพบอลข้ามคานไปแบบน่าเสียดาย

เจ้าถิ่นยังครองเกมได้เหนือกว่า นาที 14 บอลจากหน้าหัวกระโหลก เฟลไลนี่ จ่ายบอลทะลุให้ แรชฟอร์ด ลุ้นเข้าไปยิงอีกครั้ง และครั้งนี้อัดด้วยซ้ายไปตรงตัว นายด่านยัง บอยส์ ที่ยังไม่พลาด

   นาที 26 แรชฟอร์ด โอกาสค่อนข้างเยอะเหลือเกิน คราวนี้รับบอลจาก ลินการ์ด ก่อนสับไกยิงด้วยขวาแต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไป

   นาที 37 นานๆ ยัง บอยส์ จะตอบโต้เจ้าถิ่นบ้าง คราวนี้ เอ็มบาบู แบ็กขวาจ่ายให้ ซูเลจ์มานี่ ตัวเก๋าของทีมได้ตะบันด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ผ่านบล็อคของเจ้าถิ่นที่รับไว้ได้เหนียวแน่น

ท้ายเกม ทัพอสูรยังดาหน้าบดใส่ ยัง บอยส์ อยู่ต่อเนื่อง คราวนี้เป็นจังหวะของ มาร์กซิยาล ได้ลองปั่นด้วยซ้ายแต่บอลโค้งหลุดกรอบออกไปไกล

   ช่วงทดเวลาเจ็บครึ่งแรก ยัง บอยส์ ได้ลุ้นเหมือนกัน แอสซาเล่ เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนไหลออกขวาให้ เอ็มบาบู ครอสเลียดมาเสาแรกถึง ฌิบริล ซอว์ ไขว้ยิงแต่น่าเสียดายบอลไม่ตรงกรอบ

   จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังเสมอกับ ยัง บอยส์ 0-0

   ครึ่งหลัง ยัง บอยส์ ปรับทัพถอดเอา สตีฟ วอน เบอร์เก้น เซ็นเตอร์แบ็กออกแล้วส่ง อูลิสเซส การเซีย ลงมาเล่นแทน

   นาที 55 มาร์กซิยาล ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนพลิกดีดต่อให้ แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปยิงมุมแคบบอลโดนข้างตาข่ายแบบได้เสียว

   นาที 63 แฟนผีลุ้นตัวโก่งอีกรอบ คราวนี้เป็น เจสซี่ ลินการ์ด ได้กดระยะกว่า 20 หลากลางประตูบอลพุ่งแรงแต่ไม่ห่างมือนายด่านยัง บอยส์ ที่รับไว้เหนียวหนึบ 

   นาทีต่อมา มูรินโญ่ ปรับแท็คติคด้วยการส่งสองแนวรุกทั้ง ปอล ป็อกบา และโรเมลู ลูกากู ลงมาแทน เจสซี่ ลินการ์ด และเฟร็ด

   และแค่นาที 66 หลัง ป็อกบา สัมพัสบอลแรกก็ได้ลุ้นเลย หลังดีดเข้ากรอบเขตโทษให้ แรชฟอร์ด แต่ดาวยิงสิงโตคำรามยังทำได้ผิดหวังกดด้วยซ้ายติดไซด์ก้อยออกหลังไป

นาที 70 เจ้าบ้านรอดพ้นการเสียประตูแบบเหลือเชื่อ เมื่อ ฟาสส์แน็คท์ ตัวสำรองยัง บอยส์ ได้หวดในกรอบบอลพุ่งจะข้ามเส้นอยู่แล้วแต่ เด เคอา ยังไวพุ่งปัดบอลบนเส้นออกไปแบบเหลือเชื่อ 

  เกมเปิดแลกกันสนุก 4 นาทีต่อมา ลุค ชอว์ ได้ตะบันนอกกรอบด้วยซ้ายบอลพุ่งไปติดของ วอน บอลล์มุส ออกหลังได้เตะมุม

  ท้ายเกม นาที 80 เจ้าถิ่นชวดโอกาสขึ้นนำอีกหน เฟลไลนี่ ขึ้นโขกชงบอลต่อมาให้ มาต้า ตัวสำรองวิ่งมายิงไม่จับบอลเหินคานออกหลังไปไกล

  อีกสองนาทีต่อมา ป็อกบา โชว์วางบอลแม่นไปเสาสองให้ สมอลลิ่ง ที่เติมขึ้นสูงเทกตัวโขกเสาสองบอลไม่ตรงกรอบ

เกมทำท่าว่าจะจบด้วยการแบ่งแต้ม แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+1 มารูยาน เฟลไลนี่ กลายเป็นฮีโร่ของเจ้าถิ่น เมื่อ ลูกากู ขึ้นชงบอลต่อให้ ห้องเครื่องเบลเยียม พลิกตัวก่อนยิงด้วยขวาบอลพุ่งลอดขา เบนิโต้ แนวรับเจ้าถิ่นเสียบเสาสองไป ให้ แมนฯยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0

  จบเกม “ปีศาจแดง” ทำได้ เปิดรังเฉือนหืดเอาชนะ ยัง บอยส์ ไปหวุดหวิด 1-0 พร้อมคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ตามหลัง “ม้าลาย” ยูเวนตุส 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

    แมนฯ ยูไนเต็ด (4-3-3) : ดาบิด เด เคอา – อันโตนิโอ วาเลนเซีย (ฆวน มาต้า น.72), ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์ – มารูยาน เฟลไลนี่, เนมานย่า มาติช, เฟร็ด (ปอล ป็อกบา น.65) – เจสซี่ ลินการ์ด (โรเมลู ลูกากู น.64), มาร์คัส แรชฟอร์ด,อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

    ยัง บอยส์ (4-1-4-1) : เดวิด วอน บอลล์มุส – เควิน เอ็มบาบู, โมฮาเหม็ด คาเมร่า, สตีฟ วอน เบอร์เก้น (อูลิสเซส การเซีย น.46), ลอริส เบนิโต้ – ซานโดร เลาเปอร์ – มิราเล็ม ซูเลจ์มานี่ (คริสเตียน ฟาสส์แน็คท์ น.66), ฌิบริล ซอว์, มิเชล อาบิเชอร์, โรเจอร์ แอสซาเล่ (นิโกลาส เอ็นกามาเลอู น.83) – ฌอง-ปิแอร์ เอ็นซาเม่