เกมดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้น กาตาลัน “นกแก้ว” เอสปันญ่อล สถิติยังเป็นรองเจ้าบุญทุ่มต่อไป หลังเจอทีเด็ดของ ลิโเนล เมสซี่ ตะบันปั่นฟรีคิกงามหยดให้ทีมบุกฉลองชัย 4-0 แถมเก็บอีกสามแต้มนำจ่าฝูงตาราง ลา ลีกา ต่อไป
สนาม : อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม
เกมดาร์บี้แมตช์แคว้นกาตาลัน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา “นกแก้ว” เอสปันญ่อล ฟอร์มไม่ดีเอาเสียเลย 4 เกมล่าสุดพ่ายถึง 3 นัด เกมนี้เปิดบ้านรับมือบาร์เซโลน่า แชมป์เก่าและจ่าฝูงในตอนนี้
เจ้าถิ่นเกมนี้ได้ บิคตอร์ ซานเชซ กลับมาช่วยแดนกลางร่วมกับ มาร์ค โรก้า ส่วนแนวรุกความหวังยังฝากไว้ที่ บอร์ฆา อิเกลเซียส
ส่วนทีมเยือน บาร์เซโลน่า ผลงานกำลังคึกหลังชนะมา 3 เกมติดต่อกัน แมตช์นี้ได้ หลุยส์ ซัวเรซ ผ่านความฟิตกลับมาไล่ล่าตาข่ายร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และอุสมาน เดมเบเล่
ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรก แค่ 17 นาที ลิโอเนล เมสซี่ ซัดฟรีคิกกว่า 25 หลาลูกโค้งข้ามกำแพงส่ายหนีมือ ดีเอโก้ โลเปซ เสียบมุมไปอย่างสวยงาม บาร์ซ่า ขึ้นนำไปก่อน 1-0
ไม่กี่อึดใจ นาที 26 ทีมเยือนมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 กัปตันเมสซี่ที่เล่นได้โดดเด่นจ่ายตัดหลังแนวรับให้ เดมเบเล่ ก่อนที่อดีตปีกดอร์ทมุนด์จะล็อกหลบแล้วตะบันด้วยขวาบอลพุงกระทบตาข่ายเข้าไปเด็ดขาด
นาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาเจ็บครึ่งแรก เจ้าบุญทุ่ม มาได้ลูกที่ 3 คราวนี้เป็น อุสมาน เดมเบเล่ บ้างที่แทงบอลขึ้นหน้าไปที่ว่าง หลุยส์ ซัวเรซ สปีดไปรับบอลในเขตโทษก่อนจะกระชากหนีแนวรับเจ้าถิ่นแล้วยิงไปแฉลบขาน่ายด่านเปลี่ยนทางเข้าประตูไป
จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า บุกขึ้นนำเอสปันญ่อล 3-0
ครึ่งหลัง “นกแก้ว” ปรับทัพส่ง ลีโอ ปาปติสเตา และเซร์คิโอ้ การ์เซีย ลงมาเล่นแทน ซึ่งรูปเกมก็ยังไม่ดีขึ้น ก่อนที่นาที 65 บาร์เซโลน่า จะมาได้ประตูที่สี่นำโด่ง จากฟรีคิกระยะกว่าเกิน 25 หลา และยังคงเป็น เมสซี่ ที่โชว์ฟรีคิกขั้นเทพวิ่งมาปั่นบอลหนีมือ โลเปซ เข้าไปอย่างสุดยอด ให้บาร์เซโลน่า นำห่าง 4-0
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบกม เอสปันญ่อล พ่ายให้คู่แข่งร่วมเมือง บาร์เซโลน่า คาถิ่นแบบขาดลอย 0-4 เก็บสามแต้มพร้อมนำเป็นจ่าฝูง ลา ลีกา สเปนต่อไป
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เอสปันญ่อล (4-3-3) ดีเอโก้ โลเปซ – ฆาบี โลเปซ, ดาบิด โลเปซ, ออสการ์ ดูอาร์เต้, ดีดัค บีล่า – บิคตอร์ ซานเชซ, มาร์ค โรก้า, เซร์จี้ ดาร์เดย์ – เอร์นาน เปเรซ, บอร์ฆา อิเกลเซียส, ออสการ์ เมเลนโด้
บาร์เซโลน่า (4-3-3) มาร์ค อังเดร แทร์ ซตีเก้น – เนลซอน เซเมโด้, เคราร์ด ปีเก้, เกลม็อง ลองเล่ต์, ยอร์ดี้ อัลบา – อาร์ตูโร่ วีดัล), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อีวาน ราคิติช – อุสมาน เดมเบเล่, หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่