เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 18 ความน่าสนใจอยู่ที่คู่ระหว่าง คาร์ดิฟฟ์ ปะทะ แมนฯยูไนเต็ด โดยจะเป็นการคุมทีมนัดแรกของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ส่วนคู่อื่นๆจะมีประเด็นอะไรน่าติดตามอีกบ้างไปดูกันได้เลย
1. ยุคใหม่ปีศาจแดงในที่คุ้นเคยของโซลชา
4 ปีหลังจากที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกปลดจากคาร์ดิฟฟ์ เมื่อกันยายน ปี 2014 เขาจะกลับมาถิ่นเดิมอีกครั้งในฐานะกุนซือแมนฯยูไนเต็ด ช่วงเวลาที่เมืองหลวง เวลส์ อาจไม่น่าจดจำสำหรับโซลชานัก ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นที่เดอะ บลูเบิร์ดค่อนข้างระส่ำจากผลงานที่ มัลกี้ แม็คคาย ทำไว้ มันยากเกินกว่าที่อดีตแข้งนอร์วีเจี้ยนจะฟื้นฟูได้
ณ ตอนนี้ ปีศาจแดง ต้องการความเปลี่ยนแปลงและยื่นโอกาสให้อดีตกองหน้าของทีมเข้ามาปลุกชีพ แม้คาร์ดิฟฟ์ในตอนนี้สภาพทีมดูดีกว่าเมื่อครั้งที่เขาเข้าไปรับงาน แต่คงไม่ใช่งานยากอะไรนักที่จะออกสตาร์ทนัดแรกด้วยการมีผลการแข่งขันที่ดี
2. ทอฟฟี่ต้องหยุดสถิติแย่ๆในการเจอบิ๊กทีม
เอฟเวอร์ตัน ดูดีขึ้นมานับตั้งแต่ได้มาร์โก ซิลวาเข้ามาคุมทัพ อย่างไรก็ตามตามสถิติในการเจอทีมระดับท็อป 6 พรีเมียร์ฯ ไม่ดีเอาเสียเลย ชัยชนะครั้งสุดท้ายเหนือทีมกลุ่มดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ มกราคม 2017 ด้วยการชนะ แมนฯซิตี้ 4-0
ด้านสเปอร์ส ต้องเจอกับกระแสข่าวของกุนซือตัวเอง เกี่ยวกับการย้ายไปคุมแมนฯยูไนเต็ด แต่ก็อาจไม่ส่งผลกระอะไรมากนักเพราะด้วยความเป็นมืออาชีพของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
3. ปูเอลต้องการผลที่ดีจากการโรเทชั่น เกมลีกคัพ
เกิดคำถามมากมายว่าหากคุณมีเกมลีกรออยู่กับเกมที่จะต้องลงสนามในบอลถ้วย คุณจะจัดทีมอย่างไร?
โคล้ด ปูเอล เลือกที่จะหมุนเวียนตัวผู้เล่นในเกมพ่ายต่อแมนฯซิตี้ แบบน่าเสียดาย เพื่อเกมลีกที่รออยู่ในสุดสัปดาห์ ตอนนี้ขุนพลเดอะ ฟ็อกซ์ รั้งอยู่ในอันดับที่12 ของตาราง และพวกเขาต้องการแต้มในช่วงคริสต์มาส โดยเริ่มจากเกมกับเชลซี ในวันเสาร์นี้
4. อดีตเด็กปั้นหงส์ดวลทีมเก่า
คอนเอร์ โคดี้ คือสเกาเซอร์พันธุ์แท้ และเติบโตมากับอคาเดมี่ของลิเวอร์พูลตั้งแต่อายุ 12 ปี ซึ่งเขาจะได้ดวลกับทีมโปรดเป็นครั้งแรกในเกมลีก
จากที่เคยเล่นตำแหน่งกองกลางจนได้รับฉายาว่า”นิว เจอร์ราร์ด” ปัจจุบัน โคดี้ ในวัย 25 ปี คือหัวใจหลักในแนวรับของวูล์ฟส์ สไตล์การเล่นของเขามีอิทธิพลต่อทีมสูงมาก นับตั้งแต่นูโน่ ซานโต้ เข้ามาคุมทีม ที่ปรับจากกองกลางมาเล่นในตำแหน่งกองหลัง จนถูกยกย่องว่าเป็นผู้เล่นกองหลังที่ฟอร์มดีที่สุดในตอนนี้
5 ปีที่แล้ว โคดี้ อาจไม่สามารถสานต่อความฝันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หงส์แดงได้ และตอนนี้เขาและผองเพื่อนวูล์ฟส์ กำลังมองเป้าหมายด้วยการเบียดพื้นที่ท็อป 6 หลังเก็บชัยได้ 3 นัดรวด เกมนี้จะเป็นบททดสอบว่าทัพหมาป่า จะก้าวไปสู่จุดนั้นได้หรือไม่
5. เบิร์นลี่ย์ต้องเอาให้อยู่
ความหวังที่จะแบ่งแต้มจากสเปอร์สที่เวมบลี่ย์ ต้องพังพาบเมื่อมาโดนคริสเตียน เอริคเซ่น ซัดชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่เกมนั้นลูกทีมของชอน ไดซ์ ก็ทำได้ดีโดยเฉพาะเกมรับที่สามารถปิดโอกาสพังประตูไก่เดือยทองเอาไว้ได้เกือบตลอดทั้งเกม
4 เกมต่อไปของเบิร์นลี่ย์กับเส้นทางหนีตกชั้นคือ เจอกับ เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม, ฟูแล่ม และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะโกยแต้มหนีโซนท้ายตารางได้
ขณะที่อาร์เซน่อล ต้องมาเสียสถิติไม่แพ้ใคร 22 นัด จากเกมพ่ายเซาธ์แฮมป์ตัน มิหนำซ้ำช่วงกลางสัปดาห์ ก็มาตกรอบคาบ้านตัวเองต่อคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง สเปอร์ส
6. ซาเน่คืนฟอร์มและยังจะดีกว่านี้ได้อีก
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จัดการพักตัวหลักอย่าง เควิน เดอ บรอยด์, ราฮีม สเตอร์ลิง และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ในเกมลีกกับเอฟเวอร์ตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กาเบรียล เชซุส ปลดแอกประตูในลีกได้เสียทีจากเกมดังกล่าว ในขณะที่เลรอย ซาเน่ ที่ช่วงหลังฟอร์มฮอตขึ้นมา กำลังมีความมั่นใจสูง โดย 8 นัดหลังสุด ปีกเมืองเบียร์ ทำไป 5 ประตู กับ 6 แอสซิสต์
และแน่นอนว่าเกมนี้กับคริสตัล พาเลซ อาจจะได้เห็นซาเน่ ฉายแววขึ้นมาอีกครั้ง