หลังจากไม่ชนะมา 3 เกมติดต่อกัน พลพรรคปีศาจแดงกระชากความมั่นใจกลับมาอีกครั้งด้วยการถล่ม วีแกน 4-0 ในรอบ 4 เอฟเอ คัพ
นอกจากนี้ยังเป็นการพักผู้เล่นสำคัญพลางให้โอกาสตัวสำรองกับดาวรุ่งบางคน แถมบริหารจิตใจผู้เล่นที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม เช่น บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ไปในตัว ช่วยให้บรรยากาศในทีมดีขึ้น
2. ระบบการเล่นในครึ่งแรกคือ 4-1-4-1 “บาสตี้” ยืนห้อยอยู่หน้าแผงหลังคนเดียว ให้ “เสี่ยหมู” กับ “พี่ฟู” ขึ้นสูง โดยวาง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นกองหน้าตัวเป้า
3. ช่วงแรก เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ค่อนข้างอึดอัด เพราะถูกคู่แข่งพุ่งเข้าหาเร็วจนทำชิ่งกันไม่ถนัด ผิดพลาดบ่อย มิหนำยังถอยไปตั้งรับกันได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจาะเข้าไปไม่ได้ หาจังหวะทำประตูได้น้อยไปหน่อย ทำท่าว่าจะจบครึ่งแรกด้วยการเสมอ
ประตูแรกที่เหมือนการปลดล็อคจึงสำคัญมาก เมื่อไม่มีช่องบนพื้นก็อาศัยการเปิดจากทางด้านข้าง โจมตีทางอากาศ จุดนี้แสดงถึงความหลากหลาย ซึ่งคนเปิดอย่าง “ชไวนี่” และคนปิดอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ ถือว่าทำได้ดีมาก
4. เมื่อได้ประตูขึ้นนำในช่วงเวลาที่เหมาะสม (ก่อนหมดครึ่งแรก) ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องเร่งเกม หรือกดดันตัวเอง แล้วดูการปรับหมากของ “มูมู่” ครับ
พี่แกปรับระบบเล็กน้อยจาก 4-1-4-1 มาเป็น 4-2-3-1 ถอย “พี่ฟู” มายืนต่ำ เพื่อเล่นเกมรับโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ “เฮียบาส” เติมขึ้นสูงไปเล่นเกมรุกอีกตะหาก
“น้องหมาก” ถูกถ่างออกไปเล่นเป็นปีกซ้าย ขยับ เวย์น รูนี่ย์ ขึ้นไปเป็นหน้าเป้า แล้วหุบ เฮนริค มคิทาเรี่ยน (ช่อง 7 พากย์ มคิทาร์ยาน) เข้ามาเป็นหน้าต่ำ
ว่าแล้วก็เล่นกันบนความรัดกุม รอจังหวะคู่แข่งเปิดพื้นที่ให้ เพราะนำแล้วไม่ต้องเครียดอะไร
5. ผู้มาเยือน “อู๊ดดี้” มากนะครับ-ขอบอก แต่ทั้ง 4 ประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุด 2.5 ก็มาจากการเข้าทำที่หลากหลาย และมีประสิทธิภาพ
สองประตูแรกจากการโขกลูกครอสส์จากด้านข้าง – ประตูที่ 3 จากจังหวะสวนกลับฉับพลัน และประตูสุดท้ายจากลูกเตะมุม