อังกฤษ เบียดแบบหวุดหวิด, ประเดิม ยูโร 2024 เน้นสามแต้ม

ชัยชนะของสิงโตต่อเซอร์เบียแบบหวุดหวิด1-0 เป็นผลงานที่ต้องบอกว่า เล่นเพื่อชนะ 1-0 สามแต้ม

เปิดตัวเกมแรก….คงไม่มีอะไรดีไปกว่าชนะไว้ก่อน แม้ผลงานในสนามจะยังไม่ลงตัวสักเท่าไหร่ก็ตาม

เกมนี้หืดจับยังไง ใครไม่ได้ชม ขอสรุปให้อ่านกันตามเนื้อเกมที่เกิดขึ้นครับ

เซิร์บมารับ 4-5-1

แม้ผังตามแทกติกคือ 3-5-2 แต่เมื่อยืนเล่นในสนามแล้วลูกทีมของ อดีตยอดมิดฟิลด์ในตำนานสุดคลาสสิกของชาวยูโกสลาเวียเดิม ดราแกน สตอยโกวิช ยืน shape 5-4-1 

รายโกวิช ; คอสติช, พาฟโลวิช, มิเลนโกวิช, เวลโกวิช, ซิฟโกวิช

; วลาโฮวิช, ลูคิช,กูเดล, มิลินโกวิช-ซาวิช

;มิโตรวิช 

เซาธ์เกตเลือก “เทรนต์” ระบบ 4-3-3

โจทย์ก่อนลงสนามคือใครจะเล่นกองกลางกับ เดแคลน ไรส์ เฉลยเมื่อตัวออกมาหนึ่งชั่วโมงก่อนแข่ง เป็นทางด้าน เทรนต์ อเลกซานเดอร์-อาร์โนลด์ ของชาวหงส์ นอกนั้นไม่มีผิดคาด

พิคฟอร์ด ; ทริพเพียร์, สโตน, เกฮี, วอล์คเกอร์

; เบลลิงแฮม, ไรส์, เทร้นต์

;เคน, ซากา, โฟเดน 

เทรนต์ กับ ไรส์ คือ ดับเบิล 6  ส่วน จูด เบลลิงแฮม เล่นตำแหน่งเบอร์เสื้อเลย

ครึ่งแรกสิงโตเอียงขวา

ทีมของ สตอยโกวิช เจตนารับในแดนตั้งแต่วินาทีแรกที่เขี่ยบอล ล่อให้อังกฤษคอนโทรลเกมขึ้นมา มีสลับเพรสซิงบ้างในแดนบน บางจังหวะ แต่โดยภาพรวมแดนสองและพื้นที่หน้าเขตโทษแน่น  วลาโฮวิช ยังต้องถอนมาช่วยไล่บอลแดนกลาง มี มิโตรวิช ค้ำเอาไว้ 

การครอบครองบอลของลูกทีมเซาธ์เกต เน้นความแน่นอน ใช้ บูกาโย ซากา โจมตีริมเส้นเลย ดึง5 กองหลังให้ถ่าง หาจังหวะเปิดริมเส้นหรือแทงช่องเพื่อเล่นงานฝั่งนั้น 

จะเห็นว่าบอลอังกฤษยึดพื้นที่แถบขวาเป็นหลัก ดังนั้น วอล์คเกอร์, เทร้นต์,ไรส์ จะมีบทบาทเยอะ 

ดังนั้นประตูแรกที่มาเร็วน.12 เกิดจากซีกขวา บอลเริ่มจาก เทรนต์ ให้ วอล์คเกอร์ พื้นที่ ฮาล์ฟสเปส ก่อนแทงให้ ซากา ถึงริมเขตโทษแล้วครอสแฉลบเข้ามาเป็นใจให้ เบลลิงแฮม โถมมาโขกเต็มๆ โดยที่เสาแรกนั้น เคน ดึงกองหลังเปิดทางให้พอดี

ครึ่งแรกอังกฤษครองบอลเหนือกว่าตามแทกติก เกมเป็นของพวกเขาถึง 70% โดย เบลลิงแฮม นั้นลอยตัว “คลาส” ของเขาเล่นได้ไม่มีที่ติ ครองบอล ส่งบอล เป็นเพลย์เมคเกอร์ ของทีม เรียกฟาวล์ได้บ่อย

หลายคนอาจดูเงียบๆเพราะโจมตียาก เซิร์บยืนแน่น ทางขวานี่ ไม่ค่อยขึ้นเลย ฝั่ง โฟเดน, ทริพเพียร์ รวมทั้ง เคน

เซิร์บ พยายามเดินเกมเพื่อให้ได้จังหวะครอส เข้าเขตโทษ แต่ก็มีบ้างบางจังหวะ ยังไม่แม่นขนาดนั้น จนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง เซิร์บ เพรสและโจมตีด้านซ้าย

ดูน่ากลัวเมื่อนักเตะเซิร์บกล้ามาเพรสสูงใส่ในช่วง 10 นาทีแรกครึ่งหลัง เล่นเอาอังกฤษป่วน และต้องตั้งรับ แถมสวนกลับไม่ได้เลย อีกทั้ง การแก้เกมของ สตอยโกวิช ใช้ พาฟโลวิช ประกบ ซากา ไม่ให้พลิกบอล มี ตัวซ้อน 2-1 ทำให้เกมรุกทางขวาอังกฤษ เดินไม่สะดวกเหมือนครึ่งแรก

25 นาทีเต็มๆที่อังกฤษแทบไม่เจอเขตโทษเซอร์เบียเลย…แถมยังย้อนรอยด้วยการโจมตีพื้นที่ด้านของ ซากา และ วอล์คเกอร์ ได้ดี  การร่วมเล่นของเซอร์เบีย ระหว่าง พาฟโลวิช และ มลาเดโนวิช 

กล่าวคือย้อนรอยอังกฤษที่เดินเกมทาง ซาก้า ครึ่งแรก ครึ่งหลังเลยโจมตีทางนี้คืน บ้าง ทำให้ ซาก้า ไม่ได้บอลรุกเลย จนสุดท้ายต้องเปลี่ยนออก ส่ง ยารอด โบเว่น ลงมา ได้ครอสให้ เคน โขก เกือบได้ลูกสอง

10-15 นาทีท้ายสิงโตตั้งรับเป็นหลัก แต่เซอร์เบีย ก็ไม่ได้หวาดเสียวอะไรมาก เพราะเน้นครอสเข้าเขตโทษอย่างเดียว แถมหลายจังหวะไล่ตัดฟาวล์ แบบไม่จำเป็นอีก เกมเลยสะดุด ก่อนจบเกมที่ด้วยความพ่ายแพ้ต่ออังกฤษ 0-1 

สรุปๆ ถ้าดูตามหน้างานที่เกิดขึ้น

1 อังกฤษเล่นไม่ต่อเนื่อง

อังกฤษเล่นดีอยู่ 30 นาทีแรกของครึ่งแรก คอนโทรลเกมเอาไว้ได้ แต่จากนั้นขาดความต่อเนื่องในการเล่น นักเตะบางคนมีส่วนร่วมไม่มาก โฟเดน กว่าจะได้บอลก็ครึ่งหลัง แล้ว 

2 ซีกซ้ายจะแก้ยังไง

กระนั้น…ต้องไม่ลืมว่าแกนหลักหลายคนหายไปจากชุดที่ เซาธ์เกต ทำมา อย่างน้อยซีกซ้ายนี้ชัด แมกไกวร์, ชอว์ รวมทั้งแรชฟอร์ด เหมือนกันกับต้องมาปรับกันใหม่ทางฝั่งซ้าย ซึ่งเกมแรก ทริพเพียร์, โฟเดน ทำไม่ได้ถนัด ได้บอลเยอะขึ้นในครึ่งหลัง แต่ก็โจมตี ไม่ถนัดนัก

3  แผงมิดฟิลด์แบบไหนดี 

ไรส์ ตัวหลักยืนพื้น ส่วนใครจะมาเล่นในแบบไหน อย่างเกมนี้ เทร้นต์ ลงก่อน…ครึ่งหลัง คอร์เนอร์ กัลลาเกอร์ ลงมาแทน ถ้าว่ากันตามจริง ก็เดินเกมไม่ลงตัวมากนัก ส่วนช่วงท้าย คอบบี เมนู ลงมาสัมผัสเกมห้านาที บวกทดเวลา ยังบอกอะไรไม่ได้มาก

4 จูด เบลลิงแฮม ต้องไม่แบก

การร่วมเล่นระหว่าง จูด กับเพื่อนแนวรุก ยังไม่ลงตัวซะทีเดียว และดูเหมือนเขาคือตัวคุมเกมรุกทั้งหมด จะให้เล่นคนเดียว หากไปเจอคู่แข่งที่แกร่งกว่าเซิร์บ ไม่น่าจะได้ออกบอลง่ายๆ 

กระนั้น 3 แต้มแรก นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม เป็นการเริ่มต้นที่ดี

แม้จะมีจุดบกพร่องให้เห็นหลายจุดก็ตาม