“ฮาไรเด้”ชมแข้งโคนมฟอร์มสุดแจ่ม

อาเก้ ฮาไรเด้ กุนซือทีมชาติเดนมาร์ก ยกนิ้วชมลูกทีมที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนทำให้ถล่ม ไอร์แลนด์ 5-1 พร้อมรับ แผนการเล่นของ ไอร์แลนด์ มีส่วนทำให้ทีมของตนเล่นง่ายกว่านัดแรก

อาเก้ ฮาไรเด้ เทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ของทีมชาติเดนมาร์ก กล่าวชมลูกทีมที่เล่นกันได้สุดยอดจนทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ หลังจากบุกไปชนะ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 5-1 ในรอบคัดเลือก โซนยุโรป รอบเพลย์ออฟ นัดสอง ถึงสนาม อาวีว่า สเตเดี้ยม ในกรุงดับลิน เมื่อวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

หลังจากที่นัดแรกเสมอกัน 0-0 ไอร์แลนด์ ก็ออกสตาร์ตได้ดีหลังขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 6 จาก เชน ดัฟฟี่ แต่ทีมเยือนตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 29 จากจังหวะที่ ไซรัส คริสตี้ เคลียร์ลูกยิงของ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ไม่ขาดจนกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง ซึ่งหลังจกานั้น คริสเตียน เอริคเซ่น ก็ระเบิดฟอร์มโหดด้วยการทำคนเดียว 3 ลูก ในนาทีที่ 32, 63 และ 73 ก่อนที่ “โคนม” จะได้ประตูปิดท้ายจากลูกจุดโทษของ นิคลาส เบนท์เนอร์ ในนาทีที่ 90

ฮาไรเด้ เผยว่า “มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เราตามหลังไปก่อน 0-1 เราเล่นกันแบบไม่เครียด เราพยายามเล่นให้ดีที่สุด เราทำประตูแรกได้ก่อนจะยิงเพิ่มได้เป็นกอบเป็นกำ เราเล่นกันได้มีประสิทธิภาพกว่าตอนเล่นนัดแรกในพาร์เค่น และการเล่นให้มีประสิทธิภาพคือสิ่งที่สำคัญมากๆ ในเกมฟุตบอล”

    “ผมพอใจกับทีมและฟอร์มการเล่นของเรามากๆ นี่เป็นสนามที่มาเยือนแล้วเล่นได้ยาก พวกเขาวางแนวรับกันเหนียวแน่นและเล่นเกมรับได้ดี มันมีไม่บ่อยนักหรอกที่จะมีใครทำได้ 5 ลูกในการเจอกับ ไอร์แลนด์ ผมแปลกใจมากๆ ที่พวกเขามาจัดแผงกลางมาในระบบไดมอนด์โดยที่ใช้กองหน้า 2 คน มันทำให้ เอริคเซ่น มีพื้นที่เล่นตรงกลางเยอะมาก”

    “ก็ต้องขอบคุณแผนการเล่นของพวกเขาที่ทำให้เรามีที่ว่างเยอะ เพราะในนัดแรกที่ พาร์เค่น พวกเขาปิดเกมของเราซะสนิท และ เอริคเซ่น ก็แทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย แต่วันนี้เขาเล่นได้สุดยอด เขามักจะทำได้ดีอยู่เสมอตอนที่ได้ครองบอล และเขาก็ทำงานอย่างหนักเพื่อทีม เขาทำให้นักเตะคนอื่นๆ มีแรงกระตุ้น ถ้าคุณส่งบอลให้เขา มันก็จะมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ นั่นคือความแตกต่างระหว่าง 2 ทีม คุณมีนักเตะระดับโลกอยู่ในทีม และทุกทีมที่ได้ไปแข่งฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ก็มีนักเตะแบบนั้นอยู่ในทีมกันทั้งนั้น”

    “มันมีความหมายกับผมมาก เราไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่ที่พ่าย มอนเตเนโกร ในพาร์เค่น ในปี 2016 ทุกอย่างเปลี่ยนไปในตอนที่เราเล่นกับ เยอรมนี เกมนั้นเราเล่นได้ดีจนเสมอกับพวกเขา 1-1 แล้วจากนั้นเราก็ชนะ โปแลนด์ ได้ ความมั่นใจถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในเกมฟุตบอล ลูกทีมของผมเล่นกันด้วยความสามัคคี และโชว์ฟอร์มได้สุดยอดในเกมที่ยากมากๆ” กุนซือวัย 64 ปี ระบุ