ในฐานะนักข่าว และ แฟนบอลไทย คนหนึ่ง ที่เดินเข้าสนามฟุตบอลเหมือนบ้านหลังที่ 2 เพราะตลอด 7 วัน ใน 1 สัปดาห์ ได้เห็นผืนหญ้าสีเขียวแทบจะทุกวัน เช่นเดียวกัน แฟนบอลของแต่ละสโมสร ที่สุดสัปดาห์ มักจะเข้าไปเชียร์ทีมรักเพื่อให้เก็บชัยชนะ
แฟนบอล ส่วนใหญ่การได้เห็นนักเตะวาดลวดลายฝีเท้า ในสนามเป็นเรื่องปกติ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าชีวิตนอกสนามนั้นบางคนเป็นเช่นไร บางคนซ้อมบอลเสร็จ แต่งตัวหล่อเดินเที่ยวห้าง, บางคนประกอบธุรกิจส่วนตัว แต่ครั้งนี้ จะพาไปทำความรู้จักกับเจ้าพ่อลูกนิ่งแห่ง รังกระต่ายแก้ว “หน่อง” จิตปัญญา ทิสุด
“หน่อง” จิตปัญญา ทิสุด นักเตะหนุ่มวัย 26 ปี ที่ตอนนี้ค้าแข้งอยู่กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ชีวิตในสนามของเขาไม่ต่างจากคนทั่วไป คือ เช้า และ เย็น ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมฟุตบอล เต็มที่ทุกครั้งที่ได้รับโอกาส เจ้าตัวบอกว่า “หากได้รับโอกาสแล้วขอทำให้เต็มที่ไม่ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร เพราะจะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง”
ชีวิตนอกสนามของ “จอมปั่นฟรีคิก” รายนี้ถือว่าน่าสนใจ นอกจากกีฬาฟุตบอล คือสิ่งที่เจ้าตัวรักมากที่สุดแล้ว การเป็นนักแข่งรถ ก็รักไม่แพ้กัน แถมอาจจะคลั่งไคล้มากกว่าด้วย
มีโอกาสได้นั่งคุยกับอดีตกองกลางของ ชัยนาท ฮอร์นบิล แบบเป็นกันเอง เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นในการชอบแข่งรถนั้น คือ มาจากการแต่งเล็กน้อยเหมือนคนทั่วไป เริ่มจากเปลี่ยนวงล้อให้สีสันสวยงาม หลังจากนั้นก็เริ่ม แต่งส่วนอื่นๆ ให้เหมือนรถแข่งที่ตนเองชอบเล่นในสมัยเด็กมากขึ้น
จิตปัญญา เล่าให้ฟังแบบตลกว่า รู้ใหมรถคันแรกในชีวิต คือ โตโยต้า วีออส สมัยเป็นวัยรุ่น ย้อนไปเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว จำได้ว่าซื้อรถคันนี้มา ราคาประมาณ 500,000 บาท ซึ่งวันนี้ก็ยังใช้รถคันนี้อยู่ เชื่อใหมว่า ตอนนี้ราคารถที่ซื้อมานั้น ผมแต่งโน่นนี่นั่นไปกว่า 600,000 – 700,000 บาทแล้วนะ
ช่วงว่างจากสนามฟุตบอล ตัวเขาเองก็จะเดินเข้าสู่สนามแข่งรถ ย่านคลอง 5 เพื่อประลองความเร็ว กับกลุ่มเพื่อนๆที่ชื่นชอบแนวเดียวกัน นอกจากนี้ยังเดินสายไปสนามต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงเป็นนักล่ารางวัลจากความเร็ว นับว่าเป็นที่รู้จักระดับแนวหน้าของวงการนักซิ่งฝีเท้าของ จิตปัญญา ทิสุด ถูกจับตามองอย่างมาก ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แจ้งเกิดแบบเต็มตัว สมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล เมื่อฤดูกาล 2016 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 และตอนนี้ถูกทาง บางกอกกล๊าส เอฟซี ยืมตัวมาใช้งาน