“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มใน เบร์นาเบว แบบหืดจับหลังได้ ลูกัส บาสเกซ ซัดชัยให้ทีมเฉือนเอาชนะ “เสือเหลือง” 3-2 คว้ารองแชมป์กลุ่มเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์พร้อมกับ “ไก่เดือยทอง” แชมป์กลุ่มที่ยังฟอร์มไร้พ่ายหลังไล่ถล่ม อโปเอล นิโคเชีย 3-0
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดสุดท้าย แชมป์เก่า “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายร่วมกับ สเปอร์ส แน่นอนแล้ว เปิด ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับมือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
โดยเกมนี้เจ้าถิ่นมาได้สองประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 8 จาก บอร์ฆ่า มาโยรัล ก่อนที่อีกสี่นาทีถัดมาในนาที 12 จะหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดประตูสุดสวยนอกกรอบ 18 หลา บอลโค้งเข้าไปอยางงดงาม
ท้ายเกม นาที 43 มาร์เซล ชเมลเซอร์ แย่งบอลจากผู้เล่นเจ้าถิ่นได้ก่อนจะโยนยาวไปให้ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง พุ่งโขกเข้าไป จบครึ่งแรกเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ขึ้นนำ “เสือเหลือง” 2-1
ครึ่งหลังเล่นมาได้แค่นาที 49 โอบาเมย็อง มาแผลงฤทธิ์อีกหนหลังหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดหนีตัว เกย์ลอร์ นาวาส เข้าไปอย่างเหนือชั้นให้ทีมเยือนไล่ตีเสมอ 2-2 สำเร็จ
เกมเหมือนจะจบด้วยการแบ่งแต้ม แต่แล้ว นาที 81 ลูกัส บาสเกซ มาพังประตูชัยพาเจ้าถิ่นเปิดรังเฉือน “เสือเหลือง” ไปแบบสนุก 3-2
ขณะที่ผลอีกคู่ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส แม้ผลงานในลีกย่ำแย่ แต่ในรายการนี้ยังเล่นได้ยอดเยี่ยม และทิ้งท้ายของรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเปิด เวมบลี่ย์ ไล่ถล่ม อาโปเอล นิโคเชีย 3-0
โดย สเปอร์ส มาได้สามประตูจาก เฟร์นานโด ยอเรนเต้, ซน ฮึง-มิน และจอร์จส์-เควิน เอ็นคูดู ยิงปิดท้าย พาทีมคว้าแชมป์กลุ่มชนิดไร้พ่าย ควง เรอัล มาดริด เข้าไปเล่นรอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ
ส่วนอันดับ 3 เป็น ดอร์ทมุนด์ ที่เข้าป้ายเหนือ อโอเอล โคเชีย ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า หลังทั้งสองทีมมีอยู่ 2 คะแนน แถมสถิติเฮดทูเฮดเท่ากัน