ขุนพลนักหวดลูกพลาสติกชายไทย โชว์ฟอร์มเฉียบ ฟาดชนะ “โสมขาว” เกาหลีใต้ 2-0 ทีม คว้าแชมป์ทีมชุดชาย พร้อมครองถ้วยพระราชทานเป็นสมัยที่ 30 ปิดฉากศึกตะกร้อชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ได้อย่างสวยหรู โดยผลงานของทีมตะกร้อหนุ่ม-สาวไทย ยังไร้เทียมทานเช่นเคย เมื่อส่งชิงชัย 6 ประเภท จัดการกวาดเหรียญทองไปครองได้ทั้งหมด ด้าน “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ประมุขตะกร้อไทย ชี้ต่อไปต้องระวังเกาหลีใต้ด้วย ไม่เพียงแค่มาเลเซียเท่านั้นที่เป็นด่านอันตรายของทีมเซปักตะกร้อไทย
การแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 32 ประจำปี 2560 ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา ได้มีพิธีปิดแล้ว เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรีผู้แทนพระองค์ เป็นประธาน สำหรับการชิงชัยวันสุดท้าย ชิงกัน 1 เหรียญทอง ประเภททีมชุดชาย ชิงถ้วยพระราชทาน รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย เจ้าของแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์มาแล้ว 29 สมัย พบกับ “โสมขาว” ทีมชาติเกาหลีใต้ ที่รอบรองชนะเลิศระเบิดฟอร์มสุดยอดเฉือนชนะ มาเลเซีย มาได้ 2-1 ทีม ส่วน ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 ทีม
ทีมชุด ก. ทีมชาติไทย ส่งนักกีฬาประกอบด้วย “ยาวปืนใหญ่” สิทธิพงศ์ คำจันทร์ ลงเสิร์ฟ, อัษดิน วงโยธา เป็นตัวชง และ อนุวัฒน์ ชัยชนะ รับบทตัวฟาด เอาชนะ หนุ่มโสมขาว 2-0 เซต 21-10, 21-11 ต่อด้วย ทีมชุด ข. ทีมชาติไทย ประกอบด้วย จันทฤทธิ์ คู่แก้ว ตัวเสิร์ฟ, ภัทรพงษ์ ยุพดี ลงเป็นตัวชง และ พรชัย เค้าแก้ว ประจำการในตำแหน่งตัวทำ พร้อมกับมี ศิริวัฒน์ สาขา ตัวเสิร์ฟรุ่นเก๋า เป็นตัวสอดแทรก ซึ่งขุนพลนักหวดลูกพลาสติกชายไทย ก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวัง จัดการสยบ เกาหลีใต้ ไปได้อีก 2-1 เซต 13-21, 21-14, 21-7
สรุปคือ ไทย ชนะ เกาหลีใต้ 2-0 ทีม (ผล ทีม ก. 21-10, 21-11, ทีม ข. 13-21, 21-14, 21-7) ป้องกันแชมป์ไว้ได้อย่างสวยหรู และเป็นการคว้าแชมป์ทีมชุดชายได้เป็นสมัยที่ 30 อีกด้วย ซึ่งจำนวน 2 ครั้งที่ไทยเคยเสียแชมป์ให้กับคู่ปรับตลอดกาล “เสือเหลือง” มาเลเซีย เกิดขึ้นในตะกร้อคิงส์คัพ ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 5
หลังเกม พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนเคยบอกไว้แล้วในตะกร้อคิงส์คัพปีที่แล้วว่า เกาหลีใต้ จะได้เข้ามาชิงกับไทย ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะเกาหลีใต้มีการพัฒนาขึ้นมามาก ประกอบกับมีการเอาจริงเอาจังด้วยการยกทีมมาเก็บตัวที่ไทยก่อนแข่งเป็นเวลาหนึ่งเดือน ซึ่งต่อไปตะกร้อไทยไม่เพียงแต่จะต้องระวังมาเลเซียเพียงทีมเดียวเท่านั้น ซึ่งก็จะมี เกาหลีใต้ อีกหนึ่งทีมด้วย ที่เราจะต้องระวังให้ดี ส่วนหลังจบจากรายการนี้ไปแล้วนั้น ทางทีมงานสตาฟฟ์โค้ชก็จะปล่อยให้นักกีฬาพักผ่อน ซึ่งจะมีการเรียกนักกีฬาเข้าแคมป์เก็บตัวอีกครั้ง หลังจบจากเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ต่อไป.
สำหรับในการแข่งขันตะกร้อคิงส์คัพหนนี้ ทีมตะกร้อทีมชาติไทย ส่งเข้าชิงชัยทั้งหมด 6 อีเวนต์ สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ทั้งหมดใน 6 ประเภท โดยได้เหรียญทองจาก เซปักตะกร้อทีมชุดชาย-หญิง, ตะกร้อคู่ชาย-หญิง และตะกร้อลอดห่วงสากลชาย-หญิง.