หากจะพูดถึงนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์ที่เล่นได้อย่างครบเครื่อง ทั้งเกมรุก และเกมรับ แน่นอนต้องมีชื่อของ “ปาทริค วิเอร่า” ยอดกองกลางพันธุ์ดุ ที่เป็นหัวใจในแดนกลางของอาร์เซน่อลมาตั้งแต่ปี 1996-2005 พร้อมช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย โดยเป็นหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003-2004 ซึ่งเป็นผู้เล่นมีอิทธิพลต่อทีมมากที่สุดคนหนึ่ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่านับตั้งแต่ วิเอร่า ย้ายออกจากอาร์เซน่อล ไปอยู่กับยูเวนตุสตั้งแต่ปี 2005 เดอะ กันเนอร์ส ก็ห่างหายจากความสำเร็จ และยังคงเป็นตำนานมิดฟิลด์ ที่อาร์เซนอลยังคงหาใครมาเทียบไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น กรานิต ชาคา, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, แจ็ค วิลเชียร์ และ อารอน แรมซีย์
จิลแบร์โต้ ซิลวา (2002-2008 : 244 เกมส์, 24 ประตู)
หากจะพูดถึงสุดยอดกองกลางอาร์เซน่อลอีก 1 คน ดาวเตะชาวบราซิเลียนต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน โดยเจ้าตัวย้ายจาก แอตเลติโก มิไนโร่ สโมสรในลีกบ้านเกิดมาอยู่กับ ไอ้ปืนใหญ่ ในปี 2002 ก่อนจะโชว์ฟอร์มเยี่ยมกลายเป็นหัวใจหลักในแดนกลางคู่กับ วิเอร่า ได้อย่างไร้ข้อกังขา พร้อมเป็นหนึ่งในแข้งชุดแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003-04 ก่อนจะอำลาทีมด้วยตำแหน่งกัปตันทีมอันทรงเกียรติ ในปี 2008 ไปอยู่กับ พานาธิไนกอส ในลีกกรีซ
อาบู ดิยาบี้ (2006-2015 : 180 เกมส์, 19 ประตู)
ดาวเตะชาวฝรั่งเศสถูกอาร์เซน่อลดึงตัวจากโอแซร์ในปี 2006 เพื่อเป็นตัวตายตัวแทนของ วิเอร่า เนื่องจากเป็นนักเตะที่มีรูปร่างสูงใหญ่ และสไตล์ที่ใกล้เคียงกันโดยมีทีเด็ดทั้งเกมรุก และเกมรับ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่องทำให้เขาไม่สามารถแจ้งเกิดได้ในสีเสื้อของอาร์เซน่อล โดยตลอด 9 ฤดูกาลที่อยู่ที่นี่เขาได้รับบาดเจ็บถึง 42 ครั้ง หรือคิดเป็นเวลามากกว่า 4 ปี คิดเฉลี่ยแล้วจะได้รับบาดเจ็บใหม่ในทุก ๆ 80 วันเลยทีเดียว
อเล็กซ์ ซง (2006-2012 : 215 เกมส์, 10 ประตู)
ดาวเตะเชื้อสายแคมเมอรูนถือเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์จอมขยันของอาร์เซน่อลอีกหนึ่งคนที่ทำผลงานได้ดี นอกจากจะมีทีเด็ดอยู่ที่การตัดเกมได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว เขายังสามารถสร้างสรรค์เกมแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูได้บ่อยครั้ง จนก้าวมายึดตำแหน่งตัวจริงในฤดูกาล 2008 จับคู่กับ เชส ฟาเบรกาส ในแผงแดนกลางได้อย่างลงตัว ก่อนจะได้รับความสนใจจากบาร์เซโลน่า และย้ายไปเล่นในถิ่น คัมป์ นู ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์
เดนิลสัน (2006-2013 : 153 เกมส์, 11 ประตู)
ดาวเตะชาวบราซิเลียนถูกคาดหวังพอสมควร ตอนที่ย้ายจาก เซาเปาโล มาร่วมทัพอาร์เซน่อลในปี 2006 โดยถูกได้รับการขนานนามว่าเป็นนักเตะที่มีสไตล์ผสมผสานระหว่าง โทมัส โรซิคกี้ และ จิลแบร์โต้ ซิลวา ก่อนในฤดูกาล 2008 จะมีบทบาทมากขึ้นและกลายเป็นตัวหลักในแดนกลาง จากสถิติลงสนาม 51 เกม (3 ประตู,7 แอสซิสต์) อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน พร้อมกับ แจ็ค วิลเชียร์ ที่ก้าวขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว และหมดอนาคตกับทีมในที่สุดก่อนย้ายกลับไปอยู่กับอดีตทีมเก่าในปี 2011
ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า (2007-2008 : 13 เกมส์, 0 ประตู)
อีกหนึ่งนักเตะที่มีสไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับ โคล้ด มาเกเลเล่ ถูก อาร์แซน เวนเกอร์ ดึงตัวจากเชลซีไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2007 พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 8 ของ เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก ปีกชาวสวีดิชที่ย้ายไปอยู่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปีดังกล่าว อย่างไรก็ตามเขาได้รับโอกาสลงเล่นเพียง 7 นัดในลีกเท่านั้น ก่อนจะถูก พอร์ทสมัธ ดึงไปด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ ในปีถัดมา
มิเกล อาร์เตต้า (2011-2016 : 149 เกมส์, 16 ประตู)
อดีตเด็กฝึกจากบาร์เซโลน่าย้ายจากเอฟเวอร์ตันมาอยู่กับอาร์เซน่อลในราคา 10 ล้านปอนด์เมื่อปี 2011 ก่อนจะกลายมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมในฤดูกาล 2014-15 แทน โธมัส แฟร์มาเล่น ที่ไปอยู่กับบาร์เซโลน่า โดยในฤดูกาล 2015-16 ถือเป็นซีซํ่นสุดท้ายของเขาหลังต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บตลอดทั้งฤดูกาล โดยลงสนามเพียงนัดเดียวเท่านั้น
ฟร็องซิส โกเกอแล็ง (2008-2018 : 160 เกมส์, 0 ประตู)
จากนักเตะโนเนมที่ได้รับโอกาสลงสนามน้อยมากตั้งก้าวขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ของทีมตั้งแต่ปี 2008 จนฤดูกาล 2014–15 ที่ผู้เล่นในแนวรับตัวจริงของอาร์เซนอลได้รับบาดเจ็บกันหลายคนทำให้ โกเกอแล็ง ได้มีโอกาสลงเล่นมากขึ้น และทำผลงานได้ดี จึงได้รับการต่อสัญญากับสโมสรออกไป ก่อนจะโชว์ผลงานโดดเด่น และยึดตัวจริงได้ในปีถัดมา อย่างไรก็ตามจากการมาของ กรานิต ชาคา ทำให้เขาต้องตกเป็นตัวสำรองอีกครั้ง และย้ายไปบาเลนเซียในที่สุด
มาติเยอร์ ฟลามินี่ (2004-2008 ; 2013-2016 : 246 เกมส์)
ดาวเตะเฟร้นชแมนย้ายจาก มาร์กเซย ในปี 2004 และสามารถยกระดับฝึเท้าจนก้าวมาเป็นกำลังหลักให้กับทีม จนกลายเป็นแข้งเนื้อหอมมีหลายทีมชั้นนำในยุโรปต่างแสดงความสนใจดึงตัวไปร่วมทัพ และเป็น เอซี มิลาน ที่ประสบความสำเร็จในปี 2008 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้ตลอด 5 ปีในอิตาลี ก่อนจะระเห็จระแหงกลับมาอาร์เซน่อลอีกครั้งในปี 2013 พร้อมสถิติลงสนาม 93 นัด ยิง 5 ประตู