หลังความพ่ายแพ้ต่อเซบีย่า 1-2 ที่โรงละครแห่งความฝัน ทำให้ปีนี้แมนฯยูไนเต็ดเหลือเพียง เอฟเอ คัพ รายการเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ซึ่งในอนาคตหากปีศาจแดงอยากจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในยุคท่านเซอร์ พวกเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่
เราจึงได้วิเคราะห์ 5 สิ่งที่แมนฯยูไนเต็ด ต้องปรับปรุงในฤดูกาลหน้า
1. เล่นเกมรุกมากขึ้น
แม้จะมีสัญญาณที่ดี จากการที่สโมสรคว้าตัวอเล็กซิส ซานเชซ เข้าสู่ทีม โดยที่แฟนๆหวังว่าดาวยิงชิลี จะเข้ามาเปลี่ยนมิติเกมรุกให้ดีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะได้อเล็กซิส เข้ามา แต่โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ยังยึดรูปแบบเน้นเกมรับตามสไตล์เดิมๆ และที่สำคัญโค้ชชาวโปรตุกีส ก็ยังไม่สามารถหาตำแหน่งที่ลงตัวกับปอล ป็อกบา รวมถึงมาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ เปรียบเทียบ ไอ้หนูวัย 20 ปี ในเกมแดงเดือดที่เล่นทางกราบซ้ายซึ่งเจ้าตัวทำหน้าที่ได้ดี แต่เกมยุโรปกลับถูกโยกไปเล่นด้านขวา อีกทั้งตำแหน่งมิดฟิลด์ ก็เปลี่ยนเอาสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แล้วส่งมารูยาน เฟลไลนี่ เป็นตัวจริงแทน ซึ่งดูเหมือนว่าตัวมูรินโญ่ เองยังสับสนในการใช้ผู้เล่นตำแหน่ง กองกลาง และ กองหน้า ทั้งนี้มูรินโญ่ จำเป็นต้องเปลี่ยนสไตล์มาเล่นเกมรุกให้มากขึ้นและหาผู้เล่นที่ลงตัวตามความเหมาะสม มิเช่นนั้นผลลัพธ์ก็จะออกมาแบบเดิมๆ
2. เอริค ไบยี่ ต้องสมบูรณ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าแนวรับไอวอรี่ โคสต์ คือหัวใจหลักในแนวรับของทีม ซึ่งเกมแดงเดือด เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าแข็งแกร่งเพียงใดกับการรับมือแนวรุกหงส์แดง แต่ปัญหาหลักของไบยี่ คือ สภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการลงสนามเท่าไหร่ โดยแมนยูจำเป็นต้องประคบประหงมร่างกายของเขาไว้ให้ดี เพราะนี่คือหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดของทีมในตอนนี้
3. หามิดฟิลด์เพิ่ม 2 คนท่ามกลางอนาคตที่ไม่แน่นอนของ อันเดร เอร์เรร่า และมารูยาน เฟลไลนี่ อีกทั้ง ไม่กี่วันมานี้ ไมเคิล คาร์ริค เพิ่งประกาศอำลาสนามหลังจบฤดูกาลนี้ หนึ่งในผู้เล่นที่ยูไนเต็ด ควรจะคว้ามาคือ เซร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช กองกลางชาวเซิร์บ จากลาซิโอ ซึ่งสไตล์ของเขาคือกองกลางแบบบ๊อกซ์-ทู-บ๊อกซ์ น่าจะลงตัวเป็นอย่างยิ่งหากได้จับคู่กับ เนมันย่า มาติช และ ปอล ป็อกบา ยิ่งด้วยความสูงถึง 192 ซม. ซึ่งเป็นรูปร่างที่สูงใหญ่ ก็เป็นสิ่งที่มูรินโญ่ ชื่นชอบเป็นพิเศษ อีกหนึ่งคนที่จำเป็นต้องมาแทนไมเคิล คาร์ริค คือ จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์อิตาเลี่ยนเชื้อสายบราซิล จากนาโปลี ซึ่งสไตล์การเล่นคล้ายๆกับคาร์ริค เป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องจากผ่านบอลที่แม่นยำ โดยมีเปอร์เซ็น สูงถึง 89 % เลยทีเดียว สำหรับตำแหน่งกองกลาง เป็นจุดแรกที่มูรินโญ่ จำเป็นต้องหาระบบที่ลงตัว ไม่ใช่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างที่เห็นในปีนี้
4. ต้องสม่ำเสมอ
ฤดูกาลนี้ แมนฯยูไนเต็ด ไม่มีความแน่นอนในเรื่องของฟอร์มการเล่น ความพ่านแพ้ในเกมลีกต่อทีมอย่าง ฮัดเดอร์สฟิลด์, นิวคาสเซิล เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งจุดนี้เองทำให้ช่องว่างคะแนน กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ห่างออกไปถึง 16 คะแนน ในตอนนี้ เรือใบสีฟ้า แพ้เพียงหนึ่งนัด และเสมออีก 3 นัด ส่วนปีศาจแดง แพ้ไปถึง 5 และเสมออีก 5 นัด ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่มูรินโญ่ ต้องปรับจูนทีมให้ทีมความสม่ำเสมอมากขึ้น
5. บ่มเพาะลูกากู
ก่อนหน้านี้โรเมลู ลูกากู โดนโจมตีอย่างมากกับเรื่องผลงานในเกมที่เจอกับทีมใหญ่ แต่ในเกมกับเชลซี และลิเวอร์พูล เขามีส่วนร่วมกับประตูของทีมถึงสามลูก ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกาย และรูปร่างที่สามารถปะทะกับกองหลังได้ทุกราย คือข้อได้เปรียบที่ยูไนเต็ดสามารถใช้ประโยชน์จากกองหน้ารายนี้ จากที่เห็นในเกมแดงเดือด เขาสามารถชิงลูกกลางอากาศกับแนวรับหงส์แดงได้ถึงสองครั้ง ซึ่งเป็นที่มาของสองประตูที่เกิดขึ้น ด้วยวัยเพียง 24 ปี ลูกากู สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นได้อีก ซึ่งปีศาจแดงจำเป็นต้องเอาข้อดีที่เขามีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีม