เดลี่ เมล สื่อของอังกฤษ ตีข่าว แมนฯ ซิตี้ อาจโดนศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลกสั่งห้ามลงทะเบียนแข้งใหม่ในตลาดช็อปพ่อค้าแข้ง 2 ช่วง หลังถูกสอบสวนจากประเด็นที่เซ็นสัญญาแข้งเยาวชนแบบผิดกฎ แต่พวกเขาก็มีสิทธิ์อุทธรณ์เพื่อซื้อแข้งมาตุนก่อนโดนแบนได้เหมือนกัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017-18 มีสิทธิ์ถูกศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) สั่งห้ามทำการลงทะเบียนนักเตะที่ซื้อมาใหม่ในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะ 2 ช่วง จากการที่พวกเขาถูกสอบสวนว่าอาจทำผิดกฎในการเซ็นสัญญากับ เบนจามิน การ์เร่ ปีกดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี
แมนฯ ซิตี้ จัดการดึง การ์เร่ มาจาก เบเลซ ซาร์สฟิลด์ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2016 และให้เขาเข้ามาฝึกฝีเท้าในทีมระดับเยาวชน โดยตอนนี้เจ้าตัวถูกดันขึ้นมาอยู่ในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หรือเทียบเท่ากับทีมสำรองแล้ว ทั้งที่เพิ่งมีอายุได้เพียง 17 ปี หลังจากที่ทำผลงานได้น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาคือ เบเลซ ยื่นเรื่องฟ้องร้องไปยังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2016 แล้วว่า แมนฯ ซิตี้ ทำผิดกฎการซื้อ-ขายนักเตะในตอนที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ เพราะ “เรือใบสีฟ้า” ติดต่อกับ การ์เร่ ตั้งแต่ตอนที่แข้งรายดังกล่าวอายุได้ 15 ปี ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับเจ้าตัวหลังจากที่เขาเพิ่งมีอายุครบ 16 ปีได้เพียงไม่กี่วัน
ทั้งนี้ กฎของ ฟีฟ่า ระบุเอาไว้ว่านักเตะทุกคนไม่สามารถเซ็นสัญญากับสโมสรในประเทศอื่นนอกเหนือจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองได้ จนกว่าที่พวกเขาจะอายุ 18 ปี แต่มันก็มีข้อแม้ 3 ข้อที่จะทำให้แข้งเยาวชนสามารถย้ายไปเล่นในต่างแดนได้ต่อให้อายุจะยังไม่ถึงเกณฑ์ ประกอบด้วย ถ้าหากนักเตะอยู่ใกล้กับชายแดนของบ้านเกิดในระยะ 50 กิโลเมตร และสโมสรจากประเทศอื่นที่อยากได้แข้งคนนั้นไปร่วมทีมก็อยู่ใกล้กับชายแดนเดียวกันในระยะ 50 กิโลเมตร, ถ้าเกิดนักเตะที่ย้ายจากทีมหนึ่งในทวีปยุโรปไปยังอีกทีมหนึ่งในทวีปยุโรปมีอายุอย่างน้อย 16 ปี และถ้าครอบครัวของนักเตะคนนั้นๆ ย้ายไปอยู่อีกประเทศหนึ่งด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอล
ที่จริงตอนแรก ฟีฟ่า บอกปัดคำร้องของ เบเลซ ไปแล้ว โดยบอกว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้ทำผิดกฎเนื่องจาก การ์เร่ ถือพาสปอร์ตสัญชาติอิตาลีเอาไว้ด้วย ขณะที่ทีมดังแห่งถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ก็บอกว่าพวกเขาทำตามกฎเหมือนกัน แต่ทีมจากอาร์เจนตินาก็ตอบโต้กลับไปว่ากฎขององค์กรลูกหนังโลกบอกว่านักเตะเยาวชนที่มีอายุอย่างน้อย 16 ปี สามารถย้ายทีมได้เฉพาะระหว่างทีมในทวีปยุโรปด้วยกันเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงกรณีที่นักเตะจากทีมในทวีปอเมริกาใต้ย้ายไปอยู่กับทีมในทวีปยุโรปแต่อย่างใด
จากเรื่องดังกล่าว ทำให้ เบเลซ เอาเรื่องนี้ไปฟ้องกับ ซีเอเอส ซึ่งล่าสุด เดลี่ เมล ก็แฉว่าโฆษกของ ซีเอเอส บอกแล้วว่าคำตัดสินของคดีนี้น่าจะออกมาภายใน 7 วันต่อจากนี้ และถ้าหาก แมนฯ ซิตี้ ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง พวกเขาก็จะถูกห้ามลงทะเบียนนักเตะที่ซื้อมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ กับในช่วงเดือนมกราคม ปีหน้า แต่ทีมมหาเศรษฐีแห่งถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ก็มีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์เพื่อให้บทลงโทษดังกล่าวเลื่อนออกไป และทำให้สามารถซื้อแข้งมากักตุนเอาไว้ในช่วงซัมเมอร์นี้ก่อนที่จะโดนแบนได้เหมือนกัน
ที่ผ่านมามีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในทวีปยุโรปที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดแบบนี้จนถูกสั่งห้ามลงทะเบียนนักเตะที่ซื้อมาร่วมทีม โดยตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคือ แอตเลติโก มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ที่โดนห้ามลงทะเบียนนักเตะที่ซื้อมาร่วมทีมถึง 2 ช่วงตลาดช็อปพ่อค้าแข้ง รวมถึง เรอัล มาดริด ซึ่งเคยเจอบทลงโทษอย่างนี้ในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2017
สำหรับการห้ามลงทะเบียนนักเตะที่ซื้อมาร่วมทีมนั้น ไม่ได้หมายความว่าทีมนั้นๆ หมดสิทธิ์คว้านักเตะมาร่วมทีม โดยพวกเขายังสามารถดึงแข้งหน้าใหม่มาเสริมทัพได้ตามสบาย แต่จะไม่สามารถลงทะเบียนเพื่อใช้งานแข้งเหล่านั้นในช่วงที่ถูกแบนได้ ยกตัวอย่างเช่น แอต. มาดริด ที่โดนสั่งห้ามลงทะเบียนนักเตะหน้าใหม่เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2017 กับช่วงซัมเมอร์ของปีเดียวกัน แต่ยังซื้อ ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าดีกรีทีมชาติสเปนมาเก็บเอาไว้กับทีมเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะลงทะเบียนเพื่อใช้งานเขาได้ในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2018