“มิช่า บอกว่าเราต้องมีความกระหาย วิ่งเข้าไปวิ่งให้ไข่ร้อน” ประโยคเด็ดของ เจ ชนาธิป ในการให้สัมภาษณ์หลังเกมที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดบ้านเอาชนะ โยโกฮาม่าเอฟ มารีนอส ไปด้วยสกอร์ 2-1 เก็บสามแต้มพร้อมกับขยับคะแนนไปที่ 18 คะแนนรั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตารางคะแนน
จากที่ผมได้ดู ซัปโปโร ลงแข่งขันมาสิบเกมในเจลีก บอกได้เลยครับว่าที่ เจ ชนาธิป พูดนั้นคือเรื่องจริง เพราะ ซัปโปโร เป็นทีมที่วิ่งเยอะมากในทุกตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งริมเส้นทั้งสองฝั่งที่วิ่งขึ้นลงวิ่งลงช่วยเกมรุกเกมรับตลอดทั้งเกมคู่กองกลางก็วิ่งไล่บอลทุกจังหวะกองหน้าก็จะลงมาช่วยเกมรับและพร้อมจะเล่นเกมบุกเวลาโต้กลับรวมถึงกองหลังทั้งสามคนมักจะแอบขึ้นมาลุ้นทำประตูบ่อยๆซึ่งจะเห็นได้จากสถิติหลังเกมว่าแข้งซัปโปโรจะวิ่งกันไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตรทั้งนั้นครับ จึงเป็นที่มาของประโยคข้างต้น
อีกทั้ง เจ ชนาธิป นะครับยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า “มิช่า (มิไฮโล เปโตรวิช) จะย้ำนักเตะอยู่เสมอว่า “ ถ้าคู่แข่งวิ่งมากเท่าไหร่เราต้องวิ่งให้เยอะกว่าเขา” ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นผลให้เห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อตอนนี้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไม่แพ้ใครมา 7 เกมติดต่อกันในลีกแล้วครับ ซึ่งเป็นสถิติที่เยอะที่สุดที่ขึ้นมาเล่นในเจลีกก็ว่าได้ครับ ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้ เปโตรวิช ที่มาพลิกโฉมซัปโปโรและยกระดับให้เป็นทีมที่ดูสนุกวิ่งเยอะบุกมันส์และกล้าได้กล้าเสียครับ
ผมยอมรับเลยว่าเขาเป็นเฮดโค้ชที่เก่งมากๆสามารถพลิกสถานการณ์พาทีมจากไม่ดีกลับมาดีได้ครับอีกทั้งเวลาในการฝึกซ้อมนั้น เปโตรวิช มักจะหาวิธีการฝึกซ้อมใหม่ๆมาให้นักเตะอยู่เสมอและมีจิตวิทยาที่ยอดเยี่ยมและรู้จักฟุตบอลญี่ปุ่นโดยส่วนตัวผมเชื่อเลย เปโตรวิช จะดึงศักยภาพ เจ ชนาธิป และ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่ยังมีของดีอีกเพียบมาโชว์ให้แฟนฟุตบอลได้เห็นกันอีกมากมายแน่นอนครับ
