ชิงฝูงกลุ่ม!ราชันรุกหนักโด้นำเยือนกระชากชัย,ไก่เช็คฟิตเคน

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เตรียมจัด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงนำปิดสกอร์ เกมบุกถิ่น “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ต้องรอเช็คความฟิตของ แฮร์รี่ เคน นัดนี้ทีมใดเก็บสามแต้มจะยึดตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มเดี่ยวทันที ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ) คืนวันพุธที่ 1 พ.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1, เวลา : 02.45 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช)
วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2560
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (อังกฤษ)  –  เรอัล มาดริด (สเปน)
ถ่ายทอดสด
: beIN SPORTS 1, เวลา : 02.45 น.

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ ”ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส พาทีมเสมอเรอัล มาดริด 1-1 ในนัดที่ 3 ก่อนพ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้ 2 นัดติด

สภาพทีมเกมนี้ ”พอช” จะได้ เดเล่ อัลลี่ พ้นโทษแบนกลับมาเสริม แต่ต้องรอเช็กความพร้อมของ แฮร์รี่ เคน ที่มีอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ารบกวน จนพลาดเกมล่าสุด แม้ล่าสุดจะมีข่าวว่าลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว ซึ่งอาจจะต้องเข็นลงในเกมสำคัญเช่นนี้

ขณะที่ วิคเตอร์ วานยาม่า (เข่า) ยังชวดเหมือนเดิม

การจัดทัพก็น่าจะมีการปรับ ดาวินซอน ซานเชซ และ มูซ่า เดมเบเล่ ที่เป็นแค่สำรอง ก็น่าจะกลับมาออกสตาร์ต

ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ ”ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์เก่า พาทีมเสมอสเปอร์ส 1-1 ในนัดที่ 3 ก่อนพ่ายคิโรน่า 1-2 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 8 เกม เรียกว่าอยู่ในความกดดันไม่น้อยเลยทีเดียว

สภาพทีมเกมนี้ ”ซิซู” จะชวดใช้งาน ราฟาแอล วาราน ที่เดี้ยงเพิ่มเป็นรายล่าสุด จากเกมแพ้คิโรน่า ส่วนพวกที่เดี้ยงอยู่ก่อนทั้ง เกย์ลอร์ นาวาส (เอ็นหลังหัวเข่า), แกเร็ธ เบล (น่อง), มาเตโอ โควาซิช (เข่า) และ ดาเนียล กาบาร์ฆัล (หัวใจ) ก็ยังชวดเหมือนเดิม

แต่แกนหลักประจำทีมรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เซร์คิโอ รามอส, กาเซมิโร่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต่างพร้อมช่วยทีมตามปกติ โดย โทนี่ โครส กับ ลูก้า โมดริช จะรับบทเป็นห้องเครื่องคอยคุมแดนกลางเช่นเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 สเปอร์ส (3-4-2-1) : อูโก้ โยริส – โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ, แยน แฟร์ต็องเก้น – แซร์ช โอริเย่ร์, มูซ่า เดมเบเล่, เอริก ดายเออร์, เบน เดวิส – เดเล่ อัลลี่, คริสเตียน เอริคเซ่น – แฮร์รี่ เคน (เฟร์นานโด ยอเรนเต้)
เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

 เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : กิโก้ กาซีย่า – อาชราฟ อาคิมี่, นาโช่ เฟร์นานเดซ, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ – โทนี่ โครส, กาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช – อิสโก้ – คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า
เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน

ผู้ตัดสิน : คูเน็ย์ต ชาเคียร์ (ตุรกี)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
– สเปอร์สไม่เคยชนะเรอัล มาดริด โดยแพ้ 3 จาก 5 เกมที่เจอกัน ที่เหลือเป็นการเสมอ 2 ซึ่งที่ ราฟาแอล วาราน ทำเข้าประตูตัวเองนัดเสมอเกมก่อนถือเป็นการได้ประตูครั้งแรกของสเปอร์สเหนือมาดริด ในรอบ 450 นาที
– ย้อนกลับไปครั้งแรกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2010/11 ของสเปอร์ส เส้นทางของพวกเขาก็ยุติลงด้วยมาดริด โดยทีมจากสเปนชนะ 4-0 ที่บ้านในรอบก่อนรองนัดแรก และพอไปไวท์ ฮาร์ท เลน โรนัลโด้ก็ยิงประตูโทนนำชัยอีก
– สเปอร์สไม่เคยชนะในบ้านตัวเองเมื่อเจอสโมสรจากสเปน (เสมอ 2 แพ้ 2)
– สเปอร์สได้แชมป์ยุโรปครั้งแรกในศึกคัพ วินเนอร์ส คัพ ปีนั้นชิงที่ร็อตเตอร์ดัม เมื่อ 1963 ชนะ แอตเลติโก มาดริด 5-1 ซึ่งนั่นถือเป็นการชนะครั้งเดียวเหนือสโมสรจากสเปน 11 หน
– เรอัล มาดริด ล่าสุดแพ้ต่อคิโรน่ามาแบบช็อกในลีก แต่พวกเขาป้องกันแชมป์รายการนี้ได้เป็นทีมแรกเมื่อซีซั่นก่อน และก็แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 22 เกมหลังนั่นคือ 1-2 ต่อตราหมีในรอบรองนัดสอง ปี 2016/17 แต่ก็ยังเข้าชิงด้วยประตูรวม 4-2 โดยในจำนวนนั้นเป็นการชนะ 15 และเสมอ 6
– มาดริดเคยบุกเสมอแบบไม่มีสกอร์ที่ซิตี้ ทำให้การเยือนอังกฤษอยู่ที่ ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 5 แต่ตอนนี้ไม่แพ้ในการเยือนแดนผู้ดี 4 หนหลัง (ชนะ 2 เสมอ 2)
– ใน 21 หนที่เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก มาดริดได้เข้ารอบน็อกเอาต์ตลอด