เซบีย่า ตัวแทนจากสเปน ผลงานในบ้านสุดแกร่งไม่แพ้ใครในปีนี้ ด้าน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฟอร์มระยะหลังร้อนแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะเกมรุกที่ยิงไป 13 ประตู จาก 4 เกมหลังสุด ทั้งคู่จะพบกันในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันอังคารที่ 21 พ.ย. 2560
ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี
วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2560
เซบีย่า (สเปน) – ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
เวลา 02.45 น. ถ่ายทอดสด บีอิน สปอร์ตส 1
สนาม : ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน
เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ เทรนเนอร์คนเก่งชาวอาร์เจนไตน์ของเซบีย่า เพิ่งพาทีมเปิดรังเชือด เซลต้า มาได้อย่างหวุดหวิด 2-1 ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนน เป็นการคว้าชัย 2 จาก 3 เกมลีกหลังสุด
ขณะที่ผลงานในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นั้น เซบีย่า เปิดบ้านเฉือนชนะ สปาร์ตัก มอสโก 2-1 ในเกมล่าสุด รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม มี 7 แต้มจาก 4 นัด โดยจะเข้ารอบทันที ถ้าชนะนัดนี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุด เบริซโซ่ ต้องรอประเมินความฟิตของ เซบาสเตียง กอร์กเชีย แนวรับชาวฝรั่งเศส ที่เจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังของเกมลีกล่าสุด รวมถึง กาเบรียล เมร์คาโด้ กับ ฮัวกิน กอร์เรอา ที่หายเจ็บกลับมาซ้อมกับทีมแล้ว
ขณะที่ นิโคลัส ปาเรฮา กับ ดาเนียล คาร์รีโซ่ สองปราการหลังยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ ชวดบู๊ การจัดทัพ เซร์คิโอ ริโก้ เตรียมเฝ้าเสาในถ้วยนี้ตามปกติ แบ็กโฟร์วางใจ กาเบรียล เมร์คาโด้, ซิมอน เคียร์, เกลม็องต์ ล็องเกล้ต์ และ เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ ลงประจำการ
คู่มิดฟิลด์ตรงกลางเป็น สตีเว่น เอ็นซอนซี่ กับ กีโด้ ปีซาร์โร่ แผงรุกเลือก ปาโบล ซาราเบีย, เอเวร์ บาเนก้า และ โนลีโต้ หน้าเป้าจัด วิสซาม เบน เยแดร์ ลงล่าตาข่าย
ด้าน ”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ระเบิดฟอร์มแกร่งเปิดรังไล่ต้อน เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 เป็นการชนะในลีก 3 นัดหลังสุด จนเขยิบขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ในรายการนี้ ”หงส์แดง” นำจ่าฝูงของกลุ่ม อี ล่าสุดเปิดบ้านทุบ มาริบอร์ 3-0 เก็บไป 8 แต้มจาก 4 นัด ต้องการชัยชนะ หรือผลเสมอแล้วลุ้นให้ สปาร์ตัก มอสโก แพ้ มาริบอร์ เพื่อจะการันตีการเข้ารอบต่อไป
สภาพทีมล่าสุด โฌแอล มาติป ปราการหลังที่เจ็บต้นขาจนไม่มีส่วนร่วมในเกมขยี้นักบุญ กับ อดัม ลัลลาน่า ที่ฟื้นตัวจากอาการเจ็บต้นขา กลับมาซ้อมแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังไม่ฟิตพอจะช่วยทีม
ส่วน เนธาเนียล ไคลน์ ฟูลแบ็กที่เจ็บหลังต้องพักยาวไปจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ปีหน้า และ อดัม บ็อกดาน ผู้รักษาประตูวัย 30 ปี ที่เอ็นเข่าฉีก ต้องพักยาวตามเดิม เช่นเดียวกับ แดนนี่ วอร์ด นายทวารชาวเวลช์ ที่เจ็บหลัง
ตำแหน่งผู้รักษาประตูในรายการนี้ใช้ ลอริส คาริอุส ลงเฝ้าเสา แนวรับให้ เดยัน ลอฟเรน ผนึกกำลังกับ รักนาร์ คลาวาน ต่อไป แบ็กขวา-ซ้ายก็น่าจะยังยึด เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ อัลเบร์โต้ โมเรโน่
ขุมกำลังในแดนกลางวาง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงทำเกม
สามประสานแดนหน้าส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เพิ่งยิงอีก 2 ประตู ในเกมปราบนักบุญ จนนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก เวลานี้, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ลงล่าตาข่ายพร้อมกัน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เซบีย่า : เซร์คิโอ รีโก้ – กาเบรียล เมร์คาโด้, ซิมอน เคียร์, เกลม็องต์ ล็องเกล้ต์, เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ (กัปตันทีม) – สตีเว่น เอ็นซอนซี่, กีโด้ ปีซาร์โร่ – ปาโบล ซาราเบีย, เอเวร์ บาเนก้า, โนลีโต้ – วิสซาม เบน เยแดร์
ลิเวอร์พูล: ลอริส คาริอุส – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, รักนาร์ คลาวาน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ – จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม), ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้ตัดสิน: เฟลิกซ์ บรืช (เยอรมัน)
เกร็ดก่อนเกม
* ลิเวอร์พูลถ้าชนะเกมนี้จะเข้ารอบเลยหรือถ้าเสมอ แล้วสปาร์ตัก มอสโก แพ้มาริบอร์ คารัง ก็จะเข้าเช่นกัน
* เซบีย่าเองก็เหมือนกันจะเข้ารอบถ้าพวกเขาชนะเกมนี้
* ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาในนัดชิงยูโรปา ลีก เมื่อปี 2016 และลิเวอร์พูลแพ้
* เซบีย่า ในรังยุโรปชนะทั้งสองเกมเลย วิสซาม เบน เยดแดร์ ยิงแฮกทริก ชนะ มาริบอร์ 3-0 ก่อนชนะ สปาร์ตัก 2-1
* เซบีย่าเคยแพ้ครั้งแรกในบ้านต่อทีมจากอังกฤษคือ 1-3 พ่าย เรือใบ ศึกแชมเปี้ยนสลีก ปี 2016 รอบแบ่งกลุ่ม
* สถิติในบ้านของพวกเขาเจอกับทีมจากอังกฤษคือ ชนะ 3, เสมอ 0, แพ้ 1
* ลิเวอร์พูล แพ้ 0-1 ตลอดใน 3 เกมเยือนหลังที่สเปน แต่สถิติเจอกับทีมจากสเปนเวลาไปเยือนคือ ชนะ 7, เสมอ 4, แพ้ 5 โดยถ้าเล่นในบ้าานคือ ชนะ 5, เสมอ 7, แพ้ 5 ซึ่งฟอร์มตอนนี้ชนะ 4 เกมติดต่อกันนับทุกรายการนับแต่แพ้สเปอร์ส 1-4 เมื่อ 22 ตุลาคม
* 9 จาก 13 ประตูของลิเวอร์พูลใน 4 เกมหลังที่ชนะมาในครึ่งหลัง