ศึกกู้ศรัทธา! เกร็ดก่อนเกม ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคมนี้ มีศึกใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั่นคือเกมที่ ลิเวอร์พูล ทีมในอันดับ 3 จะเปิดรัง แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เจ้าของอันดับ 5 ในตารางคะแนน

ทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ไม่ดีเท่าไหร่นักหลังจาก ลิเวอร์พูล ไม่ชนะใครในลีกมา 2 นัดติดต่อกัน ส่วน สเปอร์ส หนักกว่าเพราะแพ้ในลีกมา 3 เกมรวด ทำให้นี่เป็นเกมสำคัญสำหรับการเรียกศรัทธากลับมา และเราจะมาพูดถึงเกร็ดในช่วงก่อนเกมเพื่อเป็นอรรถรสสักหน่อย

– ป้อมปราการ แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล มักจะขึ้นชื่อเรื่องการทำผลงานได้ดีเมื่อได้เล่นในบ้านเพราะแฟนบอลของพวกเขาคอยส่งเสียงเชียร์เป็นอย่างดี และเกมกับ สเปอร์ส มันก็ถือว่าเสียงเชียร์จาก เดอะ ค็อป ช่วยเพิ่มพลังแฝงได้มากเป็นพิเศษ เพราะในเกมลีก 29 นัดหลังสุดที่คู่นี้เจอกันที่ แอนฟิลด์ นั้น ลิเวอร์พูล แพ้แค่เพียงครั้งเดียว โดยที่เหลือแบ่งเป็นการชนะ 19 เกมกับเสมอ 9 นัด

สำหรับเกมลีกหนเดียวจาก 29 นัดหลังสุดที่ สเปอร์ส บุกมาชนะได้ถึง แอนฟิลด์ นั้น ต้องย้อนไปถึงช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2011 เลยทีเดียว โดยหนนั้น สเปอร์ส ชนะไป 2-0

– โอกาสเหมา

แม้ว่าช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา สเปอร์ส จะเป็นทีมที่ดูดีขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่ค่อยเอาชนะ ลิเวอร์พูล แบบไปกลับในลีกภายในซีซั่นเดียวกันได้ โดยหนล่าสุดที่ทำแบบนั้นได้ต้องย้อนไปถึงฤดูกาล 2010-11 เลยทีเดียว ซึ่งวันอาทิตย์นี้ สเปอร์ส มีโอกาสทำแบบนั้นได้ เพราะนัดแรกชนะมาก่อน 2-1

– คู่ที่ดราม่าเกิดขึ้นบ่อย

หลายคนอาจจะไม่เชื่อ แต่เกมระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ สเปอร์ส ถือเป็นคู่ที่มีประตูชัยในนาทีที่ 90 ขึ้นไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึก พรีเมียร์ลีก เลยทีเดียว จากการที่มีประตูแบบดังกล่าวรวมแล้ว 6 ลูก แถมแบ่งเป็นฝั่งละ 3 ประตูพอดิบพอดีอีก

ยิ่งไปกว่านั้น การเจอกันในลีก 2 นัดหลังสุดของคู่นี้ก็ยังมีประตูชัยเกิดขึ้นในนาทีที่ 90 ขึ้นไปทั้ง 2 เกมอีกต่างหาก ประกอบด้วยการทำเข้าประตูตัวเองของ โฌแอล มาติป ที่ช่วยให้ สเปอร์ส เปิดบ้านชนะ 2-1 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กับผลงานของ ดีโอโก้ โชต้า ที่พา ลิเวอร์พูล เปิดรังพิชิต สเปอร์ส 4-3 เมื่อเดือนเมษายน ปีก่อน

– โอกาสสร้างชื่อของ อังเก้

อย่างที่บอกไปแล้วว่านัดแรกที่เจอกันในซีซั่นนี้นั้น สเปอร์ส เป็นฝ่ายได้ 3 แต้ม ซึ่งหากวันอาทิตย์นี้พวกเขาทำแบบนั้นได้อีก มันก็จะทำให้ อังเก้ ปอสเตโคกลู เป็นกุนซือคนที่ 2 เท่านั้นที่สามารถเอาชนะ คล็อปป์ ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ 2 นัดติดต่อกัน โดยคนแรกที่ทำแบบนั้นได้คือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ทำได้ตอนคุม เลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงปี 2021

นอกจากนี้ ปอสเตโคกลู ยังมีโอกาสเป็นกุนซือคนแรกนับตั้งแต่ปี 2010 ที่เอาชนะ คล็อปป์ ในเกมระดับลีกสูงสุดได้จากการเจอกันทั้ง 2 เกมแรกด้วย โดยคนสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่ทำแบบนั้นได้คือ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งเคยนำ บาเยิร์น มิวนิค พิชิต โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในยุคของ คล็อปป์

– ซน ตัวอันตราย

แน่นอนว่าหนึ่งในคนที่ ลิเวอร์พูล ต้องระวังเอาไว้ให้ดีสำหรับเกมนี้คือ ซน ฮึง-มิน เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ไปได้ 16 ลูกแล้วนั้น ดาวเตะชาวเกาหลีใต้ยังยิงใส่ “หงส์แดง” มาได้ 4 นัดติดต่อกันแล้วด้วย

ทั้งนี้ ซน มีโอกาสที่จะเป็นนักเตะคนที่ 2 ที่สามารถยิงใส่ ลิเวอร์พูล ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้มากถึง 5 นัดติดต่อกันอีกต่างหาก โดยตอนนี้คนเดียวที่ครองบัลลังก์นั้นคือ เจมี่ วาร์ดี้ ซึ่งทำได้ระหว่างปี 2016-2017