แม่ ย้อนความหลัง ลูกเจ น้ำตาคลอได้เงินก้อนแรกจากฟุตบอล

ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ ที่ปัจจุบันสามารถหารายได้หลักล้านบาทได้ไม่ยาก จากทั้งค่าเหนื่อย รวมไปถึงค่าสปอนเซอร์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย

แม้ค่าเหนื่อยปัจจุบันระดับของมิดฟิลด์คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาน 6 แสนบาทต่อเดือน แต่ก็มอบเงินจำนวนมากถึง 5.5 แสนบาท ส่งไปยังครอบครัวที่เมืองไทย ที่มีทั้งพ่อและแม่ รวมไปถึงญาติพี่น้องที่ชนาธิป คอยดูแลให้ความช่วยเหลือ

คุณแม่พรสวรรค์ สรงกระสินธ์ ได้เปิดเผยเคล็ดลับวิธีการปลูกฝังการใช้เงินของลูก ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก ให้รู้จักประหยัดอดออม รู้จักคุณค่าของเงิน เพราะว่าครอบครัวมีความลำบาก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สอนลูกของเธอมาโดยตลอด

“บอกเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่บ้านเมื่อก่อนลำบาก หากใครโตขึ้น หาเงินได้ ควรส่งเงินให้พ่อและแม่ เพราะว่าพ่อแม่ลำบาก กว่าจะเลี้ยงลูกมาจนโต นี่เป็นสิ่งที่ปลูกฝังเจมาตั้งแต่เด็ก”

คุณแม่ของกองกลางร่างเล็ก ยังจำได้ดี ว่าเงินก้อนแรกจากการเล่นฟุตบอล ด้วยเงินจำนวน 30,000 บาท ที่ลูกชายนำมาให้ จากการที่ตอนนั้น ชนาธิป ช่วยให้เยาวชนบีอีซี เทโรศาสน คว้าแชมป์ยูธ เอฟเอ คัพมาครองมาปี 2011 สร้างความสุขให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

“วันนั้นไปกดเงินพร้อมกันนี่แหล่ะ พ่อ แม่ ลูก … หูย เงินเยอะมาก เจบอกอย่างงี้เลย เขาดีใจน้ำตาคลอ เพราะเขาไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนี้ พอกดเงินออกมา ทั้งหอมเงิน ทั้งเอาแบงค์มาเรียง ถ่ายรูปกันใหญ่เลย เขาดีใจมากในวันนั้น”

แม้ในวันนี้ชนาธิป จะสามารถหาเงินล้านได้อย่างสบาย ๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณแม่พรสวรรค์ คอยบอกเสมอ ว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอน เงินที่หามาได้ต้องรู้จักแบ่งเก็บแบ่งใช้ แบ่งทำบุญ โดยเงินที่ลูกชายตัวเองหามาได้นั้น ได้วางรากฐานให้กับลูกชายทั้งหมด และที่สำคัญที่สุด เงินของชนาธิปจะต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวสิ่งที่เป็นอบายมุขโดยเด็ดขาด

“เราจะไม่เอาเงินของเจ มาใช้ในสิ่งที่ฟุ่มเฟือย เพราะที่บ้านจะไม่เล่นการพนัน ไม่เล่นหวย ไม่กินเหล้า พอเราได้เงินมาก็ไปสร้างสนามบอล วางอนาคตให้เขา หลังจากที่เขาเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว”

นี่คือเคล็ดลับทางการเงินของคุณแม่พรสวรรค์ สรงกระสินธ์ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง ของชีวิตการค้าแข้งของลูกชายตัวเอง ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขั้นและยังมีเส้นทางให้เดินอีกไกลแสนไกลต่อจากนี้